20
Aprilจัดการเงินในกระเป๋าไม่ได้ ไม่ต้องห่วง เมื่อรู้จักกับ การบริหารเงินด้วย “ซองจดหมาย
เมื่อพูดถึงการบริหารเงินในกระเป๋า หรือที่ภาษาทางการเงินเรียกว่า การจัดการงบประมาณ คนส่วนใหญ่็มักจะมองหา “เทคนิค” หรือวิธีการจัดทำงบประมาณที่ดีที่สุดเสมอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคำว่า “ดีที่สุด” นั้น อาจจะใช้ไม่ได้สำหรับทุก ๆ คน เพราะแท้ที่จริงแล้วเทคนิคเหล่านี้นั้นส่งผลแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลเสมอ กล่าวคือ บางคนอาจจะเหมาะกับการทำรายรับ-รายจ่ายแบบดั้งเดิม บางคนอาจจะใช้วิธีการทำงบแบบรวมศูนย์ หรือคนหัวสมัยใหม่ก็จะชอบใช้แอปพลิเคชันเป็นตัวช่วยเหลือในการบริหารจัดการเงินในกระเป๋า เนื่องจากใช้งานง่าย และเห็นภาพชัดเจน
ทั้งนี้เหล่าเทคนิคที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นนี้นั้นมักจะใช้ได้ผลสำหรับคนที่ “ใจแข็ง” มาก ๆ เท่านั้น เพราะเป็นวิธีที่จะต้องมี “วินัย” และ “ความรับผิดชอบ” สูงมาก เนื่องจากเราต้องควบคุมตัวเองอย่างหนักแน่นตลอดระยะเวลาที่เราบริหารจัดการเงิน เพราะท้ายที่สุดต่อให้เราแบ่งไว้อย่างดีแล้วว่าเงินแต่ละกองนั้นมีเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเงินทั้งหมดก็นอนกองกันอยู่ที่เดียวกัน นั่นก็คือภายในบัญชีของเรานั่นเอง ซึ่งการที่เงินกระจุกกันอยู่แบบนี้จะทำให้เรา “เผลอ” ใช้เงินเกินกว่าที่เราแบ่งไว้ได้ไม่ยากเลยแหละ นั่นจึงทำให้มือใหม่บางคนที่พยายามบริหารเงินในกระเป๋านั้นต้องผิดหวังเพราะยังไม่เจอเทคนิคที่ “ใช่” นั่นเอง
แล้วเทคนิคอะไรกันล่ะ? ที่จะเหมาะสมกับมือใหม่หัดขับอย่างเรา ๆ
บอกได้เลยว่าเรื่องนี้นั้นไม่ยากอย่างที่คิด และวันนี้เราจะมาตอบคำถามข้างต้นให้กระจ่าง โดยเราขอเสนอการจัดการเงินด้วย “ซองจดหมาย” ซึ่งถือเป็นระบบการจัดทำงบประมาณที่มีประสิทธิภาพสูงมากเลยทีเดียว และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฝึกควบคุมการใช้เงินเป็นอย่างมาก
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปรู้จักกับเทคนิคนี้กันได้เลย!
การจัดการเงินในกระเป๋าด้วยซองจดหมายนั้นคืออะไรกันแน่?
หากพูดให้เห็นภาพยิ่งขึ้น การจัดการเงินในกระเป๋าด้วยซองจดหมาย ก็คือการที่เรา “ถอน” เงินที่ได้เรามาทุก ๆ เดือนออกมาเป็น “เงินสด” และแบ่งเงินทั้งหมดนั้นเป็นค่าใช้จ่ายประเภทต่าง ๆ โดยจัดเก็บมันภายใน “ซองจดหมาย” ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำต่อจากนี้นั้นก็คือ ใช้จ่ายตามวงเงินที่มีอยู่ในซองแต่ละประเภท และมันจะช่วยให้เราไม่สามารถใช้จ่ายเกินกว่าเงินที่อยู่ในซองนั่นเอง
โดยตัวอย่างของหมวดหมู่ในการทำงบประมาณประเภทนี้นั้นประกอบไปด้วย
- ค่าน้ำมัน
- ค่ารับประทานอาหารนอกบ้าน
- ค่าความบันเทิง เช่น ตั๋วภาพยนตร์ บัตรคอนเสิร์ต เป็นต้น
- ค่าเสื้อผ้า
- ค่าเสริมความงาม เช่น ตัดผม ทำเล็บ บำรุงหน้า
- ค่าใช้จ่ายสำหรับงานอดิเรก
“ข้อดี” ของวิธีการจัดทำงบประมาณซองจดหมาย
- เห็นภาพชัดเจน ง่ายต่อการจัดการ
- จับต้องได้จริง ช่วยให้ใจแข็งยิ่งขึ้น
- ช่วยลดการใช้จ่ายอย่างทันตาเห็น
- ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับมือใหม่
ขั้นตอนการจัดการเงินด้วยซองจดหมาย
หัวใจหลักของการใช้ซองจดหมายก็คือการกำหนดงบประมาณที่สมเหตุสมผล และใช้เงินสดแทนบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตสำหรับการใช้จ่ายในแต่ละวัน เพื่อให้เราสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้นเนื่องจากการจะจ่ายเงินแต่ละครั้งเราจะต้องจับเงินสด ๆ ซึ่งจะส่งผลทางจิตใจมากกว่าการจ่ายเงินออนไลน์อย่างมาก
ทั้งนี้หากเราตัดสินใจบริหารเงินของเราด้วยซองจดหมายแล้วล่ะก็ สิ่งที่ควรจะเริ่มต้นนั้นก็คือการ “ย้อน” ไปดูลักษณะ การใช้จ่ายของเราเอง เพื่อให้มองเห็นประเภทของค่าใช้จ่าย รวมถึงปริมาณของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เรามักจะใช้ ซึ่งเราก็จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายอะไรที่ “มาก” เกินจำเป็น และสามารถนำสิ่งที่เราเห็นมากำหนดเป็นเงินที่ควรจะใส่ไว้ในแต่ละซอง กองไหนที่จ่ายเยอะเกินไป เราก็สามารถลองลดการใช้จ่ายจากระดับปัจจุบันลงไปได้ แต่ก็อย่าให้น้อยจนเกินไปนะ เพราะนั่นจะทำให้เราขาดความสุขจากการใช้เงิน และส่งผลให้เกิดความเครียดได้ ซึ่งหมวดหมู่การใช้จ่ายของทุกคนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และห้ามลืมเตรียมซองจดหมายสำหรับเป้าหมายการออม การชำระหนี้ เชียวล่ะ กองนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วการกำหนดงบประมาณควรเป็นรายเดือน แต่หากเพื่อน ๆ ได้รับเงินเป็นรายอาทิตย์ หรือทุก ๆ ครึ่งเดือน ก็สามารถปรับวิธีนี้ให้เข้ากับตัวเองได้เช่นกัน
เห็นไหมล่ะ? การบริหารการเงินนั้นไม่ยากเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เราเลือกวิธีที่ใช่เท่านั้น เราก็จะสามารถทำตามเป้าได้อย่างไม่อยากเย็นอะไร ฉะนั้นหลังจากเพื่อน ๆ อ่านบทความนี้ และมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคซองจดหมายสุดเจ๋งแล้ว นี่ก็ถึงเวลาที่เพื่อน ๆ ต้องลองเอามันไปใช้จริงแล้วแหละ รับรองเลยว่าเริ่ดอย่างแน่นอนน
บทความ : MULA Learning
รูปประกอบ : MULA Learning