การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

ภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในน้ำตาล และวิธีจัดการแบบง่าย ๆ

ภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในน้ำตาล และวิธีจัดการแบบง่าย ๆ

ทำงานเหนื่อย ๆ แบบนี้ ชาวมูลาคนไหนบ้างที่ต้องถามหาน้ำตาล เครื่องดื่มที่มีความหวาน ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก น้ำผลไม้ปั่นต่าง ๆ ขอเพียงแค่จิบเดียว ร่างกายก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเสียง่าย ๆ จนทำให้หลายคนติดความหวานกันอย่างงอมแงม สะสมนานวันเข้าจนส่งผลเสียต่อร่างกายมากมาย

 

วันนี้มูลาอาสาขอเล่าว่าน้ำตาลตัวดีเหล่านี้จะสามารถเข้าไปทำอะไรในร่างกายของเราได้บ้าง เพื่อเราทุกคนจะได้ระวังกันมากขึ้นนะ

 

ก่อนอื่นเลย รู้หรือไม่ว่าใน 1 วันสามารถบริโภคน้ำตาลได้มากเท่าไหร่

 

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาระบุไว้ดังนี้

 

เด็กและผ้สูงอายุ  : ไม่เกิน  16 กรัมหรือ 4 ช้อนชา

วัยรุ่นอายุระหว่าง 14 – 25 ปี  : ไม่เกิน  24 กรัมหรือ 6 ช้อนชา

วัยทำงาน : ไม่เกิน 32 กรัมหรือ 8 ช้อนชา

 

ซึ่งเพียงแค่ชานมไข่มุก 1 แก้วก็มีปริมาณน้ำตาลพอ ๆ ที่เราสามารถบริโภคได้แต่ละวันแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงอาหารต่าง ๆ ที่มักจะใส่น้ำตาลหรือมีรสหวานด้วยนะ

 

แล้วน้ำตาลจะทำปฏิกิริยากับร่างกายของเราอย่างไรบ้างล่ะ

 

ก่อนอื่นเลย น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีทีร่างกายนำไปใช้ หมายรวมถึงแป้ง ขนมปัง หรือข้าวที่จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลด้วยนะ นอกจากนี้น้ำตาลยังทำให้สมองหลังฮอร์โมนแห่งความสุขที่ชื่อ โดปามีน ทำให้เรารู้สึกดี มีความสุขทุกครั้งที่ได้กินของหวาน ๆ และอยากกินของหวานอย่างต่อเนื่องนั่นเอง นี่จึงไม่แปลกเลยที่เราอยากกินของหวานทุกวัน กินแล้วรู้สึกสดชื่น

 

ตับอ่อน ที่ทำหน้าที่หลั่งอินซูลินลดน้ำตาลในเลือดก็จะหลั่งอินซูลินเพื่อมาลดน้ำตาลนั่นเอง แต่ถ้าเราทานน้ำตาลมากเกินไป เป็นระยะเวลานาน ๆ ตับอ่อนก็จะทำงานหนักและไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้เต็มที่ จนน้ำตาลในเลือดสูง กลายเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง อีกอวัยวะหนึ่งที่เกี่ยวข้องในการย่อยคือ ตับ จะทำหน้าที่ช่วยเผาผลาญน้ำตาล แบบเดียวกับที่จัดการกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้ามีน้ำตาลหรือแอลกอฮอล์มากเข้า ตับก็มีไขมันสะสมมากขึ้น จนเกิดเป็นภาวะไขมันพอกตับ

 

นอกจากนี้มีงานวิจัยระบุว่า ยิ่งเราบริโภคน้ำตาลมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากขึ้นเท่านั้น น้ำตาลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและก่อให้เกิดโรคหัวใจต่างๆ ตามมา

นอกเหนือจากอวัยวะสำคัญภายใน การทานน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้แก่เร็วอีกด้วย เพราะน้ำตาลเข้าไปทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลง ผิวจึงแห้งกร้านได้ง่ายกว่าเดิม

 

แต่ไม่ต้องกลัวไปนะ ภัยร้ายที่ว่านี้เราสามารถป้องกันได้ โดยเริ่มฝึกจากการลดน้ำตาลที่เราบริโภคในแต่ละวัน เลือกทานความจากธรรมชาติที่พอเหมาะ อ่านฉลากข้างกล่องอาหารหรือเครื่องดื่มทุกครั้ง และออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายเอาพลังงานจากน้ำตาลมาใช้ได้มากขึ้นนั่นเอง

 

เอาล่ะ หลังจากนี้ไป เพื่อน ๆ ต้องหมั่นสังเกตว่าเราบริโภคน้ำตาลมากเกินไปหรือไม่ เพื่อให้ร่างกายและสุขภาพที่ดีอยู่กับเราไปนานๆ มูลาเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ในภารกิจลดน้ำตาลนะ สู้ๆ !

 

 

ที่มา :

https://www.health.harvard.edu/heart-health/the-sweet-danger-of-sugar

https://www.webmd.com/diabetes/features/how-sugar-affects-your-body

https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/1698

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

  • แชร์