28
Januaryแบ่งเวลา หาสมดุลการทำงานและเรื่องครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพไหน ต่างก็มีภาระหน้าที่การทำงานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กว่าจะกลับถึงบ้าน หัวถึงหมอนก็สลบไปแล้ว เวลาเลยผ่านอย่างนี้มาเรื่อย ๆ จนเราไม่รู้เลยว่า ชีวิตของเรานั้นยังมีหน้าที่เป็นสมาชิกของครอบครัว ดูแลคนที่เรารักอีกด้วย ไม่ว่าเราจะยุ่งกับการทำงานอย่างไร การมีเวลาให้ตัวเองและคนที่เรารักก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะอย่าลืมว่าครอบครัวนี่แหละที่เป็นแรงผลักดันให้เราทำงานในทุก ๆ วัน วันนี้มูลาจึงมาพร้อมกับวิธีการแบ่งเวลา บาลานซ์ชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัวอย่างดี ทริคง่าย ๆ แค่นี้ตามมาดูกันเลย
- วางแผนเวลาชีวิต
ก่อนอื่นเลย เราต่างก็รู้ว่า ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมงต่อวันเหมือน ๆ กัน ทุกวันนี้ที่เวลาผ่านเลยไป เพื่อน ๆ ได้สังเกตหรือไม่ว่าเราได้ใช้เวลาไปกับอะไร หรือเรื่องไหนที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นอย่างไรบ้าง ความจริงแล้ว คำว่า “หาเวลา” ทำสิ่งต่าง ๆ นั้นไม่มีจริงหรอก ที่ถูกต้องเราสามารถทำได้แต่ “จัดสรร” เวลาให้เรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญในชีวิต
การจัดสรรเวลาที่ว่านี้สามารถเริ่มต้นได้จากการวางแผนตารางเวลาของตัวเรานั่นเอง ตั้งแต่ จะนอน ตื่นนอน ทำงานและกลับถึงบ้านกี่โมง ถ้าเราคิดว่าการมีเวลาเพื่อครอบครัวเป็นสิ่งจำเป็นแล้วล่ะก็ แผนการแต่ละวันก็ควรมีแบ่งเพื่อครอบครัวเอาไว้บ้าง ตามความเหมาะสมหรือเวลาของแต่ละครอบครัวที่มีเวลาว่างตรงกัน ส่วนคำถามที่ว่า จะหาเวลาไหนมาให้ครอบครัวก็ในเมื่อชีวิตทั้งวันเรายุ่งขนาดนี้ ก็ขอให้ย้อนกลับไปดูว่า ที่ผ่านมามีกิจกรรมอะไรบ้างไหมที่ไม่สำคัญขนาดนั้นและสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเวลาเพื่อครอบครัวได้บ้าง
- ทำชีวิตให้ง่ายขึ้น
แม้ว่าเราจะทราบดีว่า เราใช้เวลาไปกับอะไรบ้างในหนึ่งวัน และดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นในชีวิตทั้งนั้น ตัดออกไม่ได้แน่ ๆ มูลาอยากขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองดูที่รายละเอียดของแต่ละกิจกรรมว่าเราสามารถลดทอนความยุ่งยาก ขั้นตอนที่ซับซ้อนได้หรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องการทำอาหาร หลายคนนั้นทำอาหารทุกวัน เพราะต้องการความสดใหม่ หรือเบื่ออาหารนอกบ้าน แต่บางครั้งการทำอาหารทุกวัน หรือบ่อยเกินไปก็อาจจะเป็นการใช้เวลาในเรื่องที่ไม่จำเป็น เราสามารถลองเปลี่ยนเป็นทำอาหารครั้งเดียวให้ได้จำนวนมาก แบ่งไว้ทานได้หลายมื้อ โดยเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อรักษาคุณภาพอาหารของเรา เป็นต้น
นอกจากนี้ อาจจะยังมีเรื่องบางเรื่องที่เราอาจจะทำบ่อยเกินไป จนกินเวลาในแต่ละวันโดยไม่จำเป็น เช่น บางคนทำความสะอาดบ้านบ่อยเกินไป เช็ดทุกซอกทุกมุมวนไป จนวันหนึ่งใช้เวลาไม่น้อยเลย เป็นต้น
- ตั้งขอบเขตเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจน
บางครั้ง คนทำงานอย่างเราอาจจะไม่ได้ทำงานแค่ในเวลางาน พอเลิกงานแล้วยังมีงานเข้า ให้ทำโน่นทำนี่ จนบางครั้งเลยเถิด รู้ตัวอีกทีไม่มีเวลาให้ตัวเองและคนที่รักอีกแล้ว แบบนี้จะทำยังไงได้
เพื่อน ๆ สามารถเริ่มจากสัญญากับตัวเองว่า ถ้าไม่ใช่งานสำคัญและเร่งด่วนจริง ๆ ที่ได้รับมอบหมายในช่วงนอกเวลาทำงาน เพื่อน ๆ จะไม่ใช้เวลากับงาน หรือใช้เวลาให้น้อยที่สุด เต็มที่ไม่เกินกี่นาที เพื่อให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คืออยู่กับงานหรือที่ทำงานของเราด้วยว่ามีความเคร่งครัด หรือสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไหน
- ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก
ข้อนี้อาจต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกคนด้วย ถ้าทุกคนในครอบครัวเห็นว่าการใช้เวลาร่วมกันกับคนในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ ทุกคนต้องช่วยกันจัดสรรเวลาจำนวนหนึ่งมาอยู่ด้วยกันให้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัวลงความเห็นว่าในทุก ๆ วัน ขอแค่เวลาอาหารเย็นตอน 6 โมงครึ่ง พอถึงเวลาทุกคนต้องสามารถหยุดทำอะไรที่กำลังทำ และมารวมตัวกันรับประทานอาหารเย็นให้ได้ หลังจากนั้นจึงกลับไปทำธุระอะไรของตัวเอง เพราะถือว่าทุกคนควรให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก
บางครอบครัวอาจจะยึดวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว เป็นวันที่ทุกคนจะไม่ทำนัดกับคนอื่น และใช้เวลาอยู่บ้าน ทำกิจกรรมร่วมกันให้ได้มากที่สุด แบบนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างที่หลายคนสามารถทำได้
- รู้จักยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนแผนในกรณีจำเป็น
ไม่ว่าเราจะวางแผนดีอย่างไร บางทีก็มีสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือความจำเป็นที่เราไม่สามารถแบ่งเวลาให้ครอบครัวได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความผิดใหญ่หลวงอะไร เมื่อเราไม่สามารถจัดสรรเวลาให้กับครอบครัววันใด หรือช่วงไหน เราควรสื่อสารกับคนในครอบครัว รวมทั้งสร้างโอกาสอื่น ๆ ที่จะใช้เวลากับครอบครัวขึ้นมาแทน การรู้จักยืดหยุ่นในแผนการเป็นเรื่องจำเป็น หากเราทำไม่ได้ตามแผน และไม่รู้จักยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยน เราเองนี่แหละที่อาจจะรู้สึกเครียดหรือรู้สึกไม่ดีกับแผนการของเรา จนเราไม่อยากทำตามแผนอีกก็ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีการแบ่งเวลาให้การทำงานและครอบครัวที่มูลานำเสนอในวันนี้ เชื่อว่าไม่ได้ยากเกินความสามารถ และสามารถเลือกปรับใช้ให้เข้ากับตารางชีวิตของแต่ละคน แต่ละครอบครัวได้แน่ ๆ หลังจากนี้ ทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวก็คงจะแฮปปี้ไปพร้อม ๆ กันแล้วนะ
บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning