
10
Februaryมารับมือ “ฝุ่นร้าย PM 2.5” ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ที่ใช้ได้จริง
เชื่อได้เลยว่าทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักกับหมอกควันตัวร้ายที่มักจะมาคุกคามเราอย่างต่อเนื่องอย่างเจ้าฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเจ้าฝุ่นที่ว่านี้นั้นเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋ว ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร หากนึกไม่ออกว่า เล็กขนาดไหน คงต้องบอกว่า “เล็กกว่าเส้นผมของคนเรา” และมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่านั่นเอง
ทั้งนี้ ด้วยความเล็กเกินจะมองด้วยสายตานี่แหละ ทำให้การต่อกรกับฝุ่นเหล่านี้ได้ยาก เอกสารทางการแพทย์ก็ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนเลยว่าฝุ่น PM 2.5 นั้นสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับร่างกายของเราจากความสามารถในเข้าสู่จมูก ปอด และหลอดเลือดได้โดยตรง นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าฝุ่นละอองเล็กจิ๋วชนิดนี้จะรับมือได้ยาก แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเรา ๆ จะไม่สามารถรับมือกับมันได้ และเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถจัดการกับเหตุการณ์ ฝุ่น PM 2.5 ที่กระจายอยู่ในหลากหลายพื้นที่ในเมืองไทยได้อย่างดีเยี่ยม ถูกต้องตามหลักการ วันนี้มูลา ก็ขออาสามานำเสนอเทคนิคง่าย ๆ ที่บอกได้เลยว่าไม่ว่าเพื่อน ๆ จะอยู่ในช่วงวัยใด หรือแม้แต่พื้นที่ไหน ๆ ในประเทศ ก็สามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้อย่างไม่ยากเย็นเลยแหละ
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันได้เลย!
เทคนิคที่ 1 : ตรวจเช็คอากาศทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
แม้ฝุ่นละอองเล็กจิ๋วชนิดนี้จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เรามีเครื่องมือต่าง ๆ ที่สามารถวัดปริมาณของฝุ่น PM 2.5 นี้ได้อย่างแม่นยำ แถมยังรายงานได้แบบเรียลไทม์ส่งตรงถึงมือถือของเราอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะช่วยปกป้องตัวของเพื่อน ๆ และคนรอบตัวในการรับมือฝุ่นชนิดนี้ ก่อนออกจากบ้านทุก ๆ ครั้ง อย่าลืมเช็คคุณภาพอากาศกันด้วยนะ
โดยโปรแกรมเช็คสภาพอากาศที่มูลาจะขอแนะนำนั้นมีอยู่ 3 ตัวด้วยกัน ซึ่งบอกได้เลยว่าแสดงค่าได้เป๊ะปังมาก แถมยังสามารถติดตั้งได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เลยแหละ โดยทั้ง 3 นั้นมีชื่อดังนี้
- AirVisual Air Quality Forecast
- Air4Thai
- Plume Air Report App
เทคนิคที่ 2 : หน้ากากต้องใส่ มือต้องหมั่นล้าง
การสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นที่ถูกออกแบบมารับมือกับ PM 2.5 โดยตรง ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับฝุ่นพิษเหล่านี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งหน้ากากที่คุณภาพสูงที่สุดในการรับมือฝุ่นละอองจิ๋วเหล่านี้ก็จะเป็นหน้ากากอนามัยชนิด N95 นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การจะใส่หน้ากาก N95 เป็นประจำก็จะสิ้นเปลืองเงินในกระเป๋าของเราไม่ใช่น้อยเลยแหละ เพราะหน้ากากชนิดนี้มีราคาที่สูงมาก ดังนั้นสำหรับคนงบน้อยอย่างเรา ๆ ก็สามารถหันมาใช้หน้ากากอนามัยสวมด้วยกระดาษทิชชู่แทนก็ดีไม่แพ้กัน หรือการสวมหน้ากากอนามัยสองชั้นก็ช่วยได้นะ
นอกจากนี้การ “ล้างมือ” ก็เป็นอีกเรื่องที่เรา ๆ มักจะมองข้ามไป ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ละอองประเภทนี้จะลอยอยู่ทั่วตามอากาศ และสามารถติดตามเนื้อตามตัว รวมไปถึงมือของเรานั่นเอง ซึ่งหากเราไม่ล้างมือ และเผลอไปจับหน้า จับจมูก ฝุ่น PM 2.5 ก็จะเข้าไปในร่างกายเราได้ง่าย ๆ เลย
เทคนิคที่ 3 : ลดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละออง
ในบางครั้ง กิจกรรมที่เรามักจะประจำอยู่ทุก ๆ วัน เช่น การจุดธูป การเผาขยะ หรือแม้แต่การสูบบุหรี่ อาจจะกำลังเพิ่มปริมาณฝุ่นเป็นจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อสภาพอากาศภายนอกก็แย่อยู่แล้ว เราเองก็ไม่ควรที่จะไปทำให้มันแย่ลงไปกว่าเก่านั่นเอง จะได้ปลอดภัยกับทั้งตัวเรา และคนที่เรารัก
เทคนิคที่ 4 : งดกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท
เมื่ออากาศมีระดับมลพิษที่สูงจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภทเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การสังสรรค์ หรือแม้แต่การท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ นั้นก็ถือเป็นอีกวิธีง่าย ๆ ที่เราทุก ๆ คนสามารถทำได้ แถมยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรอีกด้วย
ทั้งนี้เพื่อน ๆ บางคนอาจจะคิดว่า... “เราก็มีหน้ากากกันฝุ่นอยู่ ทำไมต้องงดกิจกรรมกลางแจ้งด้วย?” มูลาก็ขอตอบตรงนี้เลยว่า การสวมหน้ากากทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยเฉพาะกับวิ่งหรือออกกำลังกาย ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้หายใจลำบาก และมีอันตรายต่อร่างกายอย่างแรง เพราะเหล่าหน้ากากกันฝุ่นรุ่นท็อปอย่าง N95 ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใส่ต่อเนื่อง ดังนั้นหากเราสวมใส่มันนานเกินไป อาจหมดสติ ถึงเสียชีวิตได้เลยนะจะบอกให้
เทคนิคที่ 5 : การนอนหลับให้เพียงพอ และหมั่นรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ มีดีกว่าที่คิด
แม้เจ้าละอองฝุ่นตัวร้ายนั้นจะสามารถสร้างความเสียหายแก่ร่างกายของเรา ๆ ได้จากภายใน แต่ทว่าเรื่องนี้จะแตกต่างออกไปในทันทีถ้าเราทุก ๆ คนนั้น “มีร่างกายที่แข็งแรง” ซึ่งเคล็ด (ไม่) ลับ ที่เราทุก ๆ คนรู้กันดีอยู่แล้วว่าสามารถช่วยทำให้ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ มีความสมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมสู้ทุกสถานการณ์ นั่นก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมกับรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่นั่นเอง อย่างไรก็ดี แม้เราจะมีร่างกายที่ปึ๋งปั๋งเราก็ไม่ควรจะชะล่าใจกับเจ้าฝุ่นประเภทนี้เชียวล่ะ
เทคนิคที่ 6 : ใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วย
เพราะฝุ่น PM 2.5 นั้นมีขนาดเล็กจิ๋วในชนิดที่ว่าสามารถแทรกซึมไปได้ในทุก ๆ พื้นที่ นั่นจึงทำให้ไม่ว่าเราจะอยู่ภายนอก หรือแม้แต่ภายในอาคาร เราทั้งหลายต่างก็ตกอยู่ภายใต้ “ความเสี่ยง” ที่จะต้องสูดดม ฝุ่นประเภทนี้เข้าไปได้อยู่ดี ดังนั้นสำหรับพื้นที่ปิดที่เราใช้ชีวิตเป็นประจำทุก ๆ วัน เช่น ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น การมีเครื่องฟอกอากาศเอาไว้ก็สามารถช่วยขจัดเจ้าฝุ่นไม่พึ่งประสงค์เหล่านี้ได้อย่างดีทีเดียวเลยแหละ แต่มูลาขอกระซิบไว้นิดหนึ่งนะว่า ก่อนเพื่อน ๆ จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ต้องเช็คให้ชัวร์ด้วยนะว่ามันมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กชนิดนี้หรือเปล่า
เทคนิคที่ 7 : ทำความสะอาดบ้านให้บ่อยขึ้น
เทคนิคข้อนี้ก็จะมาจากเหตุผลเดียวกับเทคนิคก่อนหน้า นั่นก็คือ เจ้าฝุ่น PM 2.5 นั้นมีขนาดเล็กจิ๋วในชนิดที่ว่าสามารถแทรกซึมไปได้ในทุก ๆ พื้นที่ ดังนั้นถ้าเราอยากให้บ้านที่แสนอบอุ่นของเราปลอดมลพิษแล้วล่ะก็... การหมั่นปัดกวาดเช็ดถู ก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกไปได้อย่างทันตาเห็นเลยทีเดียว ซึ่งจุดที่เราทั้งหลายต้องใส่ใจเป็นพิเศษก็คือ จุดที่สะสมฝุ่นได้ง่าย ๆ เช่น แอร์ พัดลม มุ้งลวด เครื่องนอน โดยต้องเน้นการทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำนั่นเอง
เทคนิคที่ 8 : อย่านิ่งนอนใจ มีอะไรผิดปกติต้องรีบพบแพทย์
เพื่อเอาชนะสภาวะอากาศเป็นพิษแบบนี้ เราทั้งหลายต้องหมั่นสังเกตตนเอง และบุคคลในครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากเพื่อน ๆ พบว่าตัวเองหรือคนรอบข้างมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หรือแม้แต่อาการอื่น ๆ เช่น ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจแต่อย่างใด และให้รีบไปพบแพทย์อย่างด่วนที่สุด ก็จะสามารถลดอันตรายจาก “ความชะล่าใจ” ไปได้เยอะเลย
ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มูลาตั้งใจคัดมาอย่างดีให้เพื่อน ๆ ทุก ๆ คน มูลาก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะนำไปทดลองใช้รับมือกับฝุ่น PM 2.5 และบอกต่อคนรอบข้างให้ตระหนักถึงภัยอันตรายของกันฝุ่นกันนะ รับรองได้เลยว่ามั่นใจ ปลอดภัยหายห่วงกันถ้วนหน้าอย่างแน่นอน!
บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning