การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

โซเชียลมีเดียดูดเงินในกระเป๋าเราได้ยังไงบ้างนะ

หลาย ๆ คนที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือ ถ้าไม่เล่นเกมส์ ก็ต้องเล่นโซเชียลมีเดียกันแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ก อินสตาแกรม ติ๊กตอก หรือว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพราะจะได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ หรือคนรู้จัก ได้ติดตามข่าวสาร หรือแม้แต่ผ่อนคลายจากความตึงเครียดระหว่างวันก็ทำได้ผ่านสื่อเหล่านี้ แต่แน่นอนเลยว่า เมื่อมีประโยชน์ ก็อาจจะมีโทษกับเราได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเงิน ๆ ทอง ๆ ด้วยแล้ว เรายิ่งต้องใส่ใจ ระมัดระวังการใช้สื่อออนไลน์ให้มากขึ้น วันนี้ มูลาขออาสารวบรวมกลวิธีที่เจอได้ในโซเชียลมีเดีย ที่อาจจะให้กระเป๋าสตางค์ของเราฟีบได้แบบไม่รู้ตัวนะ

 

  1. กลัวตกเทรนด์ ตามไม่ทันคนอื่นจนทำให้เราใช้เงินเกินพอดี

สินค้าหลายตัวที่บรรดาผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์เลือกใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำการตลาด โปรโมทสินค้าร่วมกับแม่ค้าออนไลน์ที่หว่านล้อมให้เราซื้อโน่นซื้อนี่ เป็นส่วนผสมชั้นดีที่ทำให้ใครหลายคนกดซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย ขอเพียงแค่พิมพ์ CC หรือตัวอักษรย่อต่าง ๆ ของสินค้าในไลฟ์ เราก็เป็นเจ้าของสินค้าเหล่านั้นได้เพียงไม่กี่นาที นั่นหมายความว่า มีโอกาสอย่างมากที่ของที่เราซื้อนั้น ไม่ได้ซื้อเพราะความจำเป็นที่จะต้องใช้จริง ๆ แต่ซื้อเพราะคนขายขายเก่ง เชียร์ว่าสินค้าตัวนี้ใคร ๆ ก็ต้องมี ยิ่งเป็นสินค้าที่คนแย่งกันซื้อ แย่งกันพิมพ์จองแล้วล่ะก็ มีหรือ! ที่เราจะยอมตกเทรนด์ เพราะฉะนั้นในข้อนี้ โซเชียลมีเดียนอกจากเป็นช่องทางที่ทำให้เราซื้อของได้ง่ายแล้ว ยังเป็นช่องทางที่สามารถกระตุ้นให้เราตามกระแสนิยม หรือบางครั้งได้สินค้าที่คุณภาพแย่หรือไม่ตรงปกก็เป็นได้

 

  1. ร่วมแคมเปญกับอินฟลูเอนเซอร์หรือดารานักร้องจนกระเป๋าฟีบ

ข้อนี้คล้ายกับข้อด้านบน ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนเป็นแฟนคลับดารานักร้อง หรืออินฟลูเอนเซอร์ มีโอกาสไม่น้อยเรา ที่เราจะยอมใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เพื่อให้ได้พูดคุยกับคนที่เราชื่นชอบนั่นเอง และโซเชียลมีเดียนี่แหละที่ทำให้เราเห็นโฆษณา เห็นแคมเปญหรือเป็นสื่อกลางในการใช้จ่ายเพื่อดารานักร้องที่เราชอบนั่นเอง

 

  1. เห็นแต่โฆษณาที่เราสนใจ จนเผลอใจสั่งของอีกแล้ว

เคยสงสัยกันใหม่ว่า ทำไมสื่อออนไลน์บางอันถึงรู้ใจเราจังเลย รู้ว่ากำลังตามหาเสื้อผ้าหรือสินค้าแบบไหน นั่นเป็นเพราะว่าโซเชียลมีเดียบางอันได้เข้าถึงข้อมูลการใช้งานของเรา จนวิเคราะห์ได้ว่า เรากำลังต้องการอะไร และจะนำเสนอโฆษณาที่เราสนใจเท่านั้น เพราะทำให้เราใช้จ่ายกับสินค้านั้น ๆ มากขึ้น แน่นอนว่า ถ้าเราเจอสินค้าที่เราสนใจเยอะเข้า ๆ เราก็มีโอกาสที่จะซื้อถึงแม้ว่าเราไม่ได้ต้องการสินค้านั้นนั่นเอง

 

  1. มิตร(ฉาชีพ)ทางออนไลน์

ข้อนี้อาจจะไม่ได้เป็นความผิดของโซเชียลมีเดียโดยตรง แต่ว่าเป็นโอกาสให้ผู้ไม่หวังดี หรือมิจฉาชีพเข้ามาหลอกเราต่าง ๆ นานานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำเพจปลอม แอบอ้างเป็นมูลนิธิหรือคนตกทุกข์ได้ยากเพื่อขอรับบริจาคเงิน เพจปลอมหลอกลงทุนที่ดูไร้ความเสี่ยง เพจขายของไม่มีคุณภาพที่ขายแพงแต่มีแต่ของหมดสภาพ ยังมีการสร้างแอคเคาน์ปลอม เพื่อมาผูกสัมพันธ์ก่อนขอให้เราโอนเงินไปก็เป็นข่าวให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้มิจฉาชีพสามารถใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราในโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อเอาไปใช้ปลอมแปลง แอบอ้างหรือหลอกเราเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะฉะนั้นการระมัดระวังข้อมูลส่วนบุคคลในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเงิน จึงเป็นเรื่องสำคัญและละเลยไม่ได้เป็นอันขาด

 

เอาล่ะ ทีนี้เพื่อน ๆ น่าจะได้ทบทวนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของตัวเองกันเพิ่มขึ้นแล้วนะ จะได้เล่นได้สนุกและปลอดภัยมากขึ้นยังไงล่ะ แล้วพบกับบล็อกความรู้ดีๆจากมูลากันใหม่นะ

 

ที่มา

https://www.accrediteddebtrelief.com/blog/7-ways-social-media-influences-our-spending-habits/#:~:text=7%20Ways%20Social%20Media%20Influences%20our%20Spending%20Habits,%207%207.%20Leads%20to%20Buyer%E2%80%99s%20Remorse%20

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

  • แชร์