ขึ้นชื่อว่า “ทองคำ” นั้น รับรองได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเจ้าแร่ล้ำค่าชนิดนี้นั้นถือเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมของใครหลายๆ คน ที่ต่างฝันจะมีโอกาสได้ครอบครองสักเส้นสองเส้น

แต่เดี๋ยวก่อน! ใช่ว่าทองคำนั้นจะฮิตเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นนะ เพราะแท้ที่จริงแล้วแร่ชนิดนี้ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยความซื้อได้ง่าย และขายได้คล่อง ที่สำคัญธนาคารแห่งชาติทั่วโลกยังนิยมใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศอีกต่างหาก ทองคำจึงถือเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้เศรษฐกิจโดยรวมของช่วงนั้นๆ เลยแหละ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่คนมากมายต่างเลือกที่จะลงทุนในทองคำมากกว่าสินทรัพย์อื่นๆ

ได้อ่านแบบนี้แล้วเพื่อนๆ เริ่มสนใจ “เล่นทอง” กันแล้วใช่ไหมล่ะ? เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเข้าวงการนี้อย่างไม่รู้สี่รู้แปดจนต้องเจ็บตัว วันนี้เราจะมาช่วยแนะนำทุกข้อควรรู้ก่อนเล่นทองให้คุณเอง เมื่อพร้อมแล้วก็ไปลุยกันได้เลย!

ทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณ?
คำถามแรกที่ทุกคนต่างสงสัยเลยก็คือ การลงทุนในทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ อะไรกันแน่ที่มีผลตอบแทนจะมากน้อยคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า...?

จริง ๆ แล้วเราสามารถลงทุนได้ทั้งในทองคำรูปพรรณ และทองคำแท่ง แม้จะมีความต่างด้านกำไรนิดหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ เพราะสิ่งแรกที่จำเป็นต้องรู้คือ “น้ำหนัก” ของทองคำแท่งกับทองรูปพรรณ แม้จะนับเป็นทอง “1 บาท” เท่ากัน แต่น้ำหนักจริงนั้นไม่เท่ากัน โดยทองคำแท่ง 1 บาท จะหนัก 15.244 กรัม ส่วนทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15.16 กรัม ทำให้ทองคำทั้งสองแบบที่ความบริสุทธิ์เท่ากันมีราคาต่อ 1 บาทไม่เท่ากันไปด้วยนั่นเอง

การลงทุนในทองคำรูปพรรณสามารถซื้อตามน้ำหนักที่ต้องการได้เลย ที่พิเศษคือเราสามารถเลือกลวดลาย และนำมาสวมใส่เป็นเครื่องประดับได้ในระหว่างที่ถือครอง ซึ่งหลายคนก็จะชอบตรงจุดนี้เป็นพิเศษ แต่ทว่าก็มีข้อเสียคือมีค่ากำเหน็จ หรือค่าแรงในการทำทองที่เพิ่มเข้ามาทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นนั่นแหละ (จะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับลวดลาย)

นอกจากนี้เวลาใส่บ่อย ๆ เข้าหน่อย เจ้าสร้อยทองเส้นนี้ก็สึกกร่อนได้ พอนำไปขายคืนจะถูกหักค่าเสื่อมไปนั่นเอง ทำให้เจ้าทองรูปพรรณเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการถือยาวๆ หรือเป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานมากกว่าการลงทุนเพื่อทำกำไรระยะสั้น

ส่วนทองคำแท่งมักจะมีการกำหนดซื้อขั้นต่ำ และอาจมีค่าบล็อกบ้างเล็กน้อย จึงต้องใช้เงินทุนที่มากกว่าในการซื้อ แต่ไม่มีค่ากำเหน็จจึงมีราคาถูกกว่าทองคำรูปพรรณ เวลาขายคืนไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือมีน้อยกว่าทองรูปพรรณมาก ทองคำแท่งจึงทำกำไรได้มากกว่าทองรูปพรรณ และเป็นที่นิยมสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในทองอย่างจริงจัง

ส่วนที่เราต้องรู้เลยก็คือ ทองคำแท่งที่คนส่วนใหญ่มักลงทุนมี 2 ประเภท คือ ความบริสุทธิ์ 96.5% และ 99.99% โดยที่ในประเทศไทยจะนิยมลงทุนในประเภทแรกมากกว่านั่นเอง

ควรซื้อทองจากที่ไหน แล้วซื้อยังไงได้บ้าง?

การลงทุนทองคำที่ง่ายที่สุดก็คือการเข้าเดินเข้าไปซื้อโดยตรงจากร้านขายทองที่ได้มาตรฐาน ซึ่งคุณสามารถเลือกเก็บรักษาทองที่คุณได้มาในรูปแบบสัญญาถือครอง ตั๋วทอง เอามาเก็บรักษาเอง หรือแม้แต่ฝากไว้กับร้านทองที่ไว้ใจได้ตามสะดวกเลย

แต่แท้ที่จริงแล้วการลงทุนด้วยทองคำนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นการเดินไปซื้อทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณที่ร้านทองด้วยตัวเองให้เหนื่อยอีกต่อไป เพราะยังมีกองทุนรวมจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนนำเงินไปลงทุนในทองคำแทนเรา ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการเล็กน้อย ที่สำคัญคืออย่าลืมศึกษาให้รอบคอบก่อนจะลงทุนล่ะ

นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการซื้อทองในรูปแบบ “ออมทอง” ซึ่งก็คือการเก็บออมได้ด้วยจำนวนเงินทีละน้อยๆ ขั้นต่ำเพียงเดือนละ 1,000 บาท สะสมไปเรื่อยๆ พอครบบาทก็ถอนออกมาได้

ทองคำนั้นมีความผันผวนมากแค่ไหน?

เมื่อการเล่นทองนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นจะบอกว่าไม่มีความเสี่ยงเลยก็จะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนตลอดเวลาตามปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และนโยบายการเงินของธนาคารต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นการลงทุนในทองคำจึงมีความเสี่ยงเหมือนกับการลงทุนในด้านอื่นๆ ซึ่งผู้ลงทุนจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบเพื่อตัดสินใจเลือกรูปแบบการลงทุนทองคำที่เหมาะกับตัวเอง

ควรเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่?

การจะเริ่มลงทุนในทองคำแท่งนั้น นอกจากจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับความรู้พื้นฐานแล้ว การเริ่มต้นลงทุนด้วยพอร์ตลงทุนเล็กๆ นั้นถือเป็นเรื่องดีเพื่อฝึกทักษะความเข้าใจ และเก็บสะสมประสบการณ์ ไม่งั้นจะเสียใจภายหลังได้!

ที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋าของเรา และความมั่นคงของครอบครัว ลงทุนในทองคำด้วย ‘เงินเย็น’ หรือเงินที่ไม่ได้จำเป็นต้องนำไปใช้อะไรเท่านั้น ไม่ควรจะกู้เงินมาลงทุนเด็ดขาด

ข่าวสารนั้นสำคัญมากสำหรับราคาทอง

จากสถิติที่ผ่านมา ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะทองคำซื้อขายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง ราคาทองคำก็มักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ข่าวต่างๆ ที่มีผลกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็มักจะส่งผลต่อทองเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนที่หวังจะพิชิตกำไรในตลาดทองคำแท่ง ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตามข่าวสารต่างๆ เหล่านี้อย่างใกล้ชิด

เป็นยังไงกันบ้าง ตอนนี้เพื่อนๆ น่าจะเห็นภาพการทำกำไรจากแร่อันล้ำค่าอย่างทองคำกันแล้วใช่ไหมล่ะ? เพราะฉะนั้นเมื่อเพื่อนๆ มีความรู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมใช้มันให้เป็นประโยชน์ และมาเริ่มสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองกันเถอะ!

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning