การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

รวมสัญญาณลูกน้อยติดเกม

รวมสัญญาณลูกน้อยติดเกม

ปัญหาเด็ก ๆ ติดเกมเป็นปัญหาคลาสสิกที่คุณพ่อคุณแม่มักกังวล เพราะรู้ดีว่า การใช้เวลาเล่มเกมผ่านหน้าจอนาน ๆ ย่อมส่งผลร้ายมากกว่าผลดีกับเด็ก ๆ การแก้ไขปัญหาอาจจะยากกว่าการป้องกัน จะดีกว่าไหมถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการว่าลูกน้อยเข้าข่ายติดเกมแล้วหรือไม่ เพราะกันไว้ดีกว่าแก้ บทความนี้ของมูลาจึงขอรวบรวมสัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็ก ๆ มีอาการของการติดเกม ไม่ต้องรอให้เด็ก ๆ มีสัญญาณมากกว่า 1 อย่างแล้วค่อยมาแก้ไข ว่าแล้วมาตามอ่านกันเลย

 

อาการติดเกมคืออะไร น่ากลัวอย่างไร

              อ้างอิงข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก การติดเกม คือการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง เล่นต่อเนื่อง ซ้ำ ๆ ให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากว่ากิจกรรมอื่น ๆ และไม่สามารถควบคุมการเล่นเกมของตนเอง ซี่งในที่สุดจะส่งผลร้ายให้ผู้ที่มีอาการติดเกมนั่นเอง

          ความน่ากลัวของอาการติดเกม คือ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับโรคจิตเวช กล่าวคือ สามารถเป็นทั้งเหตุหรือผลจากการติดเกมนั้นก็ได้ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ระบุถึง 3 โรคจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเกม ได้แก่

  1. โรคซึมเศร้า

เมื่อรู้สึกเศร้า หมดหวังกับโรคความเป็นจริง การเล่นเกมจึงกลายเป็นทางออกในการหลีกหนีความจริง ยิ่งจะทำให้อาการซึมเศร้ามีแต่จะเพิ่มขึ้น

  1. โรคบกพร่องทางการเรียนเฉพาะด้าน

บางทีเพราะเด็ก ๆ ไม่ได้ประสบความสำเร็จทางการเรียน การเล่นเกมให้ดี เล่นเกมให้เก่งจึงอาจเป็นการชดเชยการอยากได้การยอมรับจากคนรอบข้าง แต่นั่นจะทำให้เด็ก ๆ หมกหมุ่น และไม่สนใจเรื่องการเรียนเข้าไปใหญ่

  1. โรคสมาธิสั้น

เพราะเกมนั้นจะฝึกให้เด็ก ๆ ไม่รออะไรนาน ๆ เล่นไปซักพักก็มีผลลัพธ์หรือมีของล่อตาล่อใจมาเรื่อย ๆ จนเด็ก ๆ ไม่สามารถรออะไรในชีวิตจริงได้ และหากเด็ก ๆ ติดเกมขึ้นมาจริง ๆ อาการโรคสมาธิสั้นก็ยิ่งจะหนักขึ้นไปอีก

นอกจากโรคทางจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับอาการติดเกมแล้ว ยังมีผลเสียอื่น ๆ ทั้งทางสุขภาพ พัฒนาการ พฤติกรรม การเรียน เช่น โรคอ้วน การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตที่สูงขึ้น ทักษาะทางสังคมที่ไม่ดี การควบคุมอารมณ์ต่ำ หรือไม่มีเวลาทบทวนบทเรียนจนผลการเรียนแย่ลงนั่นเอง

 

          สัญญาณเด็กติดเกมที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ระบุ 5 สัญญาณของการติดเกมไว้ดังต่อไปนี้

  1. อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย

เพราะเกมนั้นจะฝึกผู้เล่นต้องการอะไรตอบสนองทันที ไม่สามารถรออะไรได้นาน ๆ พอมาอยู่ในโลกชีวิตจริงแล้ว เด็กที่ติดเกมก็มักมีอาการอารมณ์เสีย หรือหงุดหงิดง่าย นอกจากนี้หากถูกขัดจังหวะขณะเล่นเกม ก็พาลจะแสดงอารมณ์ได้ง่ายหรือรุนแรงก็ได้เช่นกัน

  1. หมกหมุ่น เล่นจนไม่เป็นอันทำอะไร

คุณพ่อคุณแม่อาจต้องสังเกตว่าในแต่ละวันนั้น เด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่กับเกมมากน้อยขนาดไหน มากจนเบียดเบียนเวลาทานข้าว ทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมกับครอบครัวหรือไม่ อาการติดเกมที่หนักนั้นจะทำให้เด็ก ๆ ไม่อยากหาเวลาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ เลยที่จะส่งผลกระทบระยะยาวได้

  1. ยังเล่นไปเรื่อย ๆ ทั้งที่เริ่มเกิดปัญหา

เด็ก ๆ อาจจะยังไม่เห็นผลกระทบของการเล่นเกมนาน ๆ อย่างต่อเนื่องขนาดนั้น แต่คุณพ่อคุณแม่ในฐานะคนนอก ย่อมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหรือผลกระทบของการติดเกมได้อย่างชัดเจน เช่น เริ่มไม่อยากรับประทานอาหาร เริ่มไม่อยากออกไปใช่เวลากับครอบครัว ไม่อยากทำการบ้าน

  1. มีอาการทางร่างกาย

เล่นเกมติดต่อนานเกินไป แน่นอนว่า เด็ก ๆ อาจมีปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น สายตา บุคลิกภาพ หรือเด็ก ๆ อาจมีอาการนอนหลับยากอีกด้วย

  1. พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงในที่นี้เป็นพฤติกรรมในด้านลบ เช่น อาการก้าวร้าว ดื้อ ไม่เชื่อฟัง พูดโกหกหรือเก็บตัว หากสังเกตได้ว่าเด็ก ๆ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามนี้ อาจต้องสงสัยแล้วว่า เด็ก ๆ มีอาการติดเกมแบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วหรือยัง

 

          อาการติดเกมที่เรื้อรังนั้นไม่เพียงจะส่งผลกระทบในระยะสั้น ๆ แต่หากผู้ปกครองไม่ได้ดูแลเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจังแล้วล่ะก็ ผลกระทบแง่ลบในระยะยาวก็อาจเกิดขึ้นกับลูก ๆ ก็เป็นได้ ข้อสำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรมีเวลาเอาใจใส่ และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเด็ก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอาการติดเกมนั่นเอง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95/

https://www.thaihealth.or.th/6-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1-2/

https://dmh.go.th/news/view.asp?id=2271

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

  • แชร์