การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

เงินเฟ้อคืออะไร? ทำไมคนอยากรวยจึงต้องรู้!?

เงินเฟ้อคืออะไร? ทำไมคนอยากรวยจึงต้องรู้!?

อีกหนึ่งคำศัพท์ทางการเงินที่เราหลาย ๆ คนต่างได้ยินมาตลอดไม่ว่าจะตามหน้าจอโทรทัศน์ หน้าปกหนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่ตามแฟนเพจด้านการเงิน ตามสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นั่นก็คือคำว่า “เงินเฟ้อ” นั่นเอง ซึ่งน้อยคนนักที่จะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำ ๆ นี้ แล้วไอ้เจ้าคำดังกล่าวมันหมายถึงอะไร และสำคัญแค่ไหนกับฐานะทางการเงินในกระเป๋าสตางค์ของเรา วันนี้เราหาคำตอบมาให้คุณแล้ว!

 

เงินเฟ้อ คืออะไร?

เงินเฟ้อ หรือ Inflation หมายถึง ภาวะที่ระดับราคาของสินค้า และบริการโดยทั่วไปในประเทศมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับมูลค่าของเงินในกระเป๋าเราที่กำลังต่ำลง และหากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากเกินไปก็จะกระทบต่อฐานะ และความเป็นอยู่ของพวกเราทุกคนนั่นเอง

 

หากให้ยกตัวอย่างของสถานการณ์เงินเฟ้อแล้วล่ะก็ หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่ที่บ้านเคยพูดถึงราคาข้าว หรือก๋วยเตี๋ยวสมัยหลายสิบปีก่อนใช่ไหมล่ะ เมื่อก่อนอาหารเหล่านี้มีมูลค่าชามละแค่บาทเดียว หรือสองบาทเท่านั้น และหากบางบ้านมีญาติผู้สูงอายุหน่อย อาจจะเคยได้ยินว่าอาหารสมัยก่อนนั้นราคาเพียงแค่ 50 สตางค์ ก็มี แล้วทำไมทุกวันนี้นี่ แค่ค่าก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวก็ปาไป 50 เข้าให้แล้ว นั่นแปลว่า เวลาผ่านไป 20 – 30 ปี ข้าวที่เรากินอยู่ทุกวันก็แพงขึ้นมาตั้งหลายเท่าตัว นี่แหละ! ตัวอย่างที่ชัดเจนมากๆ ของภาวะเงินเฟ้อ ลองคิดต่อดูนะครับว่า ในอนาคตอีก 20 – 30 ปีข้างหน้า อาหารที่เรากินอยู่จะมีราคามากขนาดไหน นี่แหละความน่ากลัวที่หลบซ่อนอยู่ของภาวะเงินเฟ้อนั่นเอง

 

แล้วเงินเฟ้อเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

สาเหตุการเกิดเงินเฟ้อสามารถแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ นั่นก็คือ

  1. เราทุกคนมีความต้องการซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันสินค้าและบริการนั้นๆ ในตลาดกลับมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้คน ทำให้เหล่าผู้ขายหัวใสเห็นโอกาสในการปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้นนั่นเอง
  2. ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น กล่าวคือ ราคาของสินค้าและบริการ โดยทั่วไปแล้วจะคิดจากต้นทุน + กำไร ใช่ไหมล่ะ แต่ทว่าข้าวของเครื่องใช้ก็ขึ้นราคากันอยู่ทุกวัน แถมค่าแรงของพนักงานเองก็ต้องเพิ่มให้ตามสมควรด้วยใช่ไหมล่ะ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแทรกอยู่ในต้นทุนทั้งนั้น และหากวันใดวันหนึ่งที่ผู้ผลิตไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ นั่นก็จะทำให้พวกเขาต้องปรับราคาสินค้า และบริการให้สูงขึ้นด้วยนั่นเอง

 

ทำไมอยากรวยแล้วจะต้องรู้จักเงินเฟ้อ?

เพราะถ้าเราไม่รู้เท่าทันเงินเฟ้อแล้วล่ะก็ ทรัพย์สินที่มีในกระเป๋าสตางค์ก็จะด้อยค่าลงไปยังไงล่ะ! ก็เหมือนกับตัวอย่างที่เล่าไปแล้วข้างต้นเรื่องของค่าอาหาร ถ้าเป็นระยะเวลาสั้น ๆ สัก 1 – 2 ปี เราอาจจะยังไม่รู้สึกอะไร แต่นานวันเข้า รับรองมีหนาวไม่ใช่น้อย

 

โดยการที่มีภาวะเงินเฟ้อนั้นจะทำให้รายจ่าย หรือภาระค่าครองชีพของเราสูงขึ้น นั้นแปลว่าความสามารถจับจ่ายซื้อสินค้า และบริการได้น้อยลง และอาจทำให้รายได้ที่มีหรือเงินที่หามาอาจจะไม่เพียงพอกับการยังชีพอีกต่อไปในอนาคต ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญของเรื่องนี้ก็คือ “การเอาชนะเงินเฟ้อ” และทำให้เงินที่เราเก็บหอมรอมริบนั้นไม่ด้อยค่าลงไปตามเวลา

 

ซึ่งปกติแล้ว ค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปีมักจะอยู่ที่ 2 – 3% เพราะฉะนั้นหากเราอยากเอาชนะสถานการณ์เหล่านี้ เราก็ต้องลงทุนที่มีผลตอบแทนมากกว่า 3% นั่นเอง โดยตามหลักทฤษฎีแล้ว การลงทุนใน “ทองคำ” จะดูดีที่สุด เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง และป้องกันเงินเฟ้อได้ดี

 

แต่ก็ใช่ว่านี่จะเป็นทางออกเดียว เพราะในสมัยนี้ยังมีการลงทุนอีกหลายต่อหลายรูปแบบ ฉะนั้นแล้วอย่าลืมหาความรู้เพิ่มเติมนะ แล้วมาเอาชนะเงินเฟ้อไปด้วยกัน!

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

  • แชร์