การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

ดูแลตัวเองง่าย ๆ แบบสายประหยัด

เราต่างก็รู้ว่า ทุกอย่างในชีวิตต้องมีบาลานซ์ ทำงานหนักอย่างไรก็ต้องมีเวลาเพื่อตัวเอง ดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เรามีแรง มีพลังงานใช้ชีวิตอย่างดีต่อไป แต่พอพูดถึงเรื่องของการดูแลตัวเองแล้วนั้น เรามักนึกภาพว่า การดูแลตัวเองต้องใช้เงินไม่น้อย แล้วแบบนี้ มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ จะเอาเงินที่ไหนมากมายมาดูแลตัวเองได้ล่ะ สงสัยต้องเลิกคิดเรื่องการดูแลตัวเองแล้วล่ะมั้ง

ไม่จริงหรอก วันนี้มูลาขอแชร์แนวทางการดูแลตัวเองแบบสายประหยัดที่ใช้เงินไม่มาก หรือแทบจะไม่ใช้เลยมาฝาก มาดูกันว่า ข้อไหนตรงใจเพื่อน ๆ กันบ้าง

 

  1. ออกกำลังกายที่บ้าน

จะดูแลร่างกาย สิ่งแรกที่นึกได้ก็ต้องเป็นการออกกำลังกายแน่ ๆ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินเข้าฟิตเนสหรือยิมแพง ๆ หรอกนะ เราสามารถหาทางออกกำลังกายที่บ้าน ที่สวนสาธารณะ ตามความชอบของเราได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เล่นโยคะ ยืดเส้นยืดสาย หรือออกกำลังกายตามคลิปในช่องทางออนไลน์ ถ้าเราเลือกได้ในแบบที่เราชอบและสามารถทำได้เป็นประจำต่อเนื่องแล้วล่ะก็ ร่างกายของเราก็จะดีขึ้นหรือแข็งแรงขึ้นได้ ไม่แพ้การเข้ายิมเลยล่ะ ข้อสำคัญของการออกกำลังกายแท้จริงแล้วคือ การออกให้หนักเพียงพอ นานเพียงพอในแต่ละครั้ง และทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องต่างหาก

 

  1. นอนหลับอย่างมีคุณภาพ

การนอนหลับที่ดีเป็นการดูแลตัวเองแบบเบื้องต้น แต่ส่งผลกับคุณภาพชีวิตของเราอย่างมาก หากเรานอนหลับไม่ดีสะสมเป็นเวลานาน อ้างอิงข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ สำหรับผู้ใหญ่ทั่ว ๆ ไป ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7 – 8 ชั่วโมง และเราควรเริ่มหลับได้ตั้งแต่ 30 วินาที – 7 นาทีของการนอน วิธีการสังเกตว่าเรานอนเพียงพอแล้วหรือไม่ ให้เราดูว่า เมื่อตื่นนอนแล้ว เรารู้สึกสดชื่นและสามารถทำกิจกรรมระหว่างได้เป็นปกติหรือไม่ แต่ถ้าหากตื่นมาแล้วสดชื่น แต่ระหว่างวัน รู้สึกได้ว่าความสามารถในการทำงานระหว่างวันไม่เต็มที่ นั่นแปลว่าเราอาจนอนหลับไม่เพียงพอ

ส่วนคนที่นอนหลับอยากอาจจะต้องหาตัวช่วยในการนอน ไม่ว่าจะเป็น ปรับสภาพแวดล้อมการนอนให้มืดสนิท เย็นและไม่มีสิ่งรบกวนต่าง ๆ สะอาด มีกลิ่นหอม พยายามตัดหน้าจอต่าง ๆ ก่อนการนอน 1 ชั่วโมง รวมทั้งงดคาเฟอีนตั้งแต่ช่วงเที่ยงสำหรับคนที่นอนหลับยาก

 

  1. ทานอาหารที่มีประโยชน์

เพราะความเร่งรีบหลายอย่างในชีวิตทำให้เราต้องกินอาหารที่สำเร็จรูปหรือแปรรูปจนเกินพอดี ทำให้เราอิ่มจริงแต่สารอาหารที่เป็นประโยชน์ที่ได้อาจจะไม่ครบถ้วนเหมือนอาหารสดใหม่ หรือความเครียดหลาย ๆ อย่าง อาจจะทำให้เราเลือกกินของอร่อยมากกว่าของที่มีประโยชน์ มูลาเข้าใจและไม่ได้อยากให้เพื่อน ๆ ตัดของอร่อยออกไปเสียหมด เป็นไปได้ไหมว่า เราขอเวลาอย่างน้อย 1 มื้อต่อวัน ทานอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น โปรตีนต้องถึง ใยอาหารต้องมี และเลือกวิธีการปรุงที่ไม่ใช้น้ำมันมาก เพื่อเป็นการบาลานซ์และไม่ทำให้ตัวเราเครียดจนเกินไป หรือหากใครติดขนม น้ำหวาน คงต้องเลือกตัวเลือกที่น้ำตาลน้อย หรือมีฉลาก “ทางเลือกสุขภาพ” ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น อ.ย. สสส. ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ สามารถเข้าไปดูรายการสินค้าอาหารที่ได้รับฉลากทางเลือกสุขภาพได้ที่เว็บไซต์

http://healthierlogo.com ได้เลย

 

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

น้ำดื่มเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย ทำให้การไหลเวียนโลหิตปกติ ผิวพรรณสดใส และร่างกายรู้สึกสดชื่น กฎการดื่มน้ำ ปริมาณการดื่มน้ำที่เพียงพอก็ขึ้นอยู่กับบุคคล โดยมากอยู่ที่ 8 – 10 แก้ว หากเพื่อน ๆ ดื่มน้ำได้เพียงพออยู่แล้ว แต่อยากให้การดื่มน้ำมีประโยชน์มากขึ้น สำนักโภชนาการแนะนำเวลาการดื่มน้ำดังนี้

  • ตอนเช้าหลังตื่นนอน
  • 45 นาทีก่อนรับประทานอาหาร
  • ดื่มระหว่างวัน หากเป็นเวลาหลังรับประทานอาหาร ต้องหลังจากเวลานั้นประมาณ 2 ชั่วโมง
  • ดื่มก่อนนอน

แค่นี้ก็เป็นการช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ตลอดทั้งวันแล้ว

 

  1. ทำสมาธิ อยู่กับปัจจุบัน

มาสู่เรื่องของการดูแลใจกันบ้าง ไม่สำคัญยิ่งหย่อนไปกว่าการดูแลร่างกายเลย การดูแลใจ จัดการอารมณ์ความเครียดที่เป็นที่ยอมรับสากลคือ การทำสมาธิ อยู่กับลมหายใจ โดยไม่จำเป็นต้องทำอิริยาบถนั่งเท่านั้น การยืน เดิน หรือนอนก็สามารถเป็นการทำสมาธิได้ หัวใจอยู่ที่เราสามารถจดจ่อกับลมหายใจได้ขนาดไหน สังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างลมหายใจได้หรือไม่ต่างหาก สำหรับผู้เริ่มต้น อาจเริ่มต้นจากจำนวนเวลาสั้น ๆ เสียก่อน เช่น 5 – 10 นาทีต่อวัน ถ้าอยากให้เห็นผล เราก็ควรนั่งสมาธิให้ได้อย่างต่อเนื่อง ทุกวันนั่นเอง

 

  1. ใช้เวลากับคนที่เรารัก

การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างนั้นเป็นส่วนสำคัญของการมีชีวิตที่สมบูรณ์ ยิ่งถ้าเป็นคนรอบข้างที่เราสนิทสนมด้วยแล้วก็เหมือนเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองไปโดยปริยาย คนรอบข้างที่มูลากล่าวคือเช่น เพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน คนรักหรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ขอเพียงเราแบ่งเวลาสำหรับคนที่เราเห็นว่าสำคัญ​ ทำกิจกรรมร่วมกันไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ไถ่ถามความเป็นอยู่ นัดดื่มกาแฟ หรือใช้เวลาอยู่บ้านดูโทรทัศน์พร้อมกัน แค่นี้ก็สามารถสร้างความสุขให้กับเราได้ง่าย ๆ แล้ว

 

  1. ทำกิจกรรมที่เราชอบ หรือฝึกทำกิจกรรมใหม่ ๆ

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราทุกคนถึงควรมีงานอดิเรก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ทำสิ่งที่ชอบหรือสนใจ เราจะรู้สึกดี มีความสุขและรู้ได้เลยว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วขนาดไหน กิจกรรมที่เราชอบไม่จำเป็นต้องตามกระแสหรือใช้เงินมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การปลูกต้นไม้ วาดภาพ อ่านหนังสือ หรือทำอาหาร หากเพื่อน ๆ ยังไม่มีงานอดิเรกก็สามารถแบ่งเวลาในการฝึกหรือเรียนรู้ในการทำกิจกรรมใหม่ ๆ นี้ได้เลย เช่น การฝึกทำอาหาร ฝึกภาษาใหม่ ๆ เล่นกีฬาใหม่ ๆ การฝึกทักษะหรืองานอดิเรกใหม่นี้ก็ยังเป็นการทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้นว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร หรือว่าเรามีความสามารถในด้านที่เราคาดไม่ถึงก็ได้เช่นกัน

 

สุดท้ายแล้ว เรื่องของการดูแลตัวเองนั้น เป็นเรื่องของการสร้างสมดุลในชีวิต พยายามแบ่งเวลาในชีวิตเพื่อตัวเอง ทั้งร่างกาย จิตใจ สังคมหรือทักษะใหม่ ๆ ขอแค่เพื่อน ๆ เลือกทำในสิ่งที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง มีความสุขระหว่างทาง เรื่องเงินนั้นไม่ใช่ข้ออ้างของไม่ดูแลตัวเองหรอกนะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.bangkokinternationalhospital.com/th/health-articles/disease-treatment/how-to-get-quality-sleep

https://multimedia.anamai.moph.go.th/infographics/healtheir-choice/

https://nutrition2.anamai.moph.go.th

https://www.thaihealth.or.th/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99/

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

  • แชร์