เด็ก ๆ เป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างความประหลาดใจให้ผู้ใหญ่เสมอ ๆ ด้วยความน่ารัก ไร้เดียงสา หรือความเฉลียวฉลาดที่เราคาดคิดไม่ถึงในหลาย ๆ ครั้ง เราอาจจะรู้สึกเซอร์ไพรส์กับเด็ก ๆ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ แต่ความจริงแล้ว ยังมีความจริงหลาย ๆ อย่างของเด็ก ๆ ที่เราอาจจะยังไม่รู้ที่ทำให้เราต้องรู้สึกตกใจหรือประหลาดใจได้แน่ ๆ วันนี้มูลาจึงของรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็ก ๆ ที่น่ารู้ ให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำความเข้าใจมนุษย์ตัวน้อยกันนะ ไปดูกันเลย  

นักชีววิทยาได้สันนิษฐานว่า สาเหตุที่เด็ก ๆ ทารกน้อยมักส่งเสียงร้องไห้ งอแงตลอดเวลา เป็นไปตามทฤษฎีวิวัฒนาการ กล่าวคือ วัยทารกเป็นมักช่วงวัยที่มีโอกาสเสียชีวิตได้ง่าย และการร้องไห้น่ารำคาญนี้จะทำให้พ่อแม่ไม่รู้สึกอยากผูกพันจนมากเกินไป หากเกิดเหตุไม่คาดฝันจริง ๆ พ่อแม่จะได้ไม่รู้สึกเศร้าโศกเสียใจจนมากเกินไปนั่นเอง  

นักวิจัยเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสมองของเด็กทารกและผู้ใหญ่ไว้ดังนี้ สมองของเด็กเปรียบเสมือนโคมไฟ กล่าวคือ รับรู้หรือเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ทุกอย่างแต่ไม่ชัดเจน ในขณะที่สมองของผู้ใหญ่นั้นคล้ายกับไฟฉายมากกว่า กล่าวคือ สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยมองข้ามบรรยากาศรอบข้างได้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สมองของคนที่สามารถคิดอย่างสรางสรรค์ได้นั้น จะมีบางสิ่งบางอย่างในสมอง คล้ายกับสมองของเด็กทารก 

เมื่อใดก็ตามที่เด็กพูดว่า อันนี้เป็นของหนู หรือแสดงความเป็นเจ้าของกับทุกสิ่ง ไม่ได้หมายความว่าเด็ก ๆ จะเริ่มเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่อย่างใด แต่ความจริงแล้วอาจเป็นรูปแบบพัฒนาการที่เด็ก ๆ เริ่มรู้จักตัวเอง และแบ่งแยกได้ว่า ตัวเองและคนอื่นต่างกัน ไม่ใช่คน ๆ เดียวกันนั่นเอง 

หลายงานวิจัยระบุว่า การที่เด็กทารกดูโทรทัศน์นั้นเกี่ยวข้องกับพัฒนาการทางภาษาที่ช้าลง ยิ่งเด็ก ๆ ใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมงหรือมากกว่าต่อวันกับหน้าจอโทรทัศน์ก่อนวัย 1 ขวบนั้น มีโอกาสในการที่เด็ก ๆ จะเข้าใจภาษาได้ช้าลงราว ๆ 6 เท่าเลยล่ะ   

หลายครั้งเราจะเห็นว่า เด็กเล็กมักชอบทำสีหน้า ท่าทางตามพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่หรือแม้กระทั้งพี่เลี้ยง คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจกังวลว่าเด็ก ๆ อาจจะทำกิริยาที่ไม่น่ารัก หรือล้อเลียนผู้ใหญ่ แต่ความจริงแล้วเป็นกระบวนการเรียนรู้หนึ่งของเด็ก ๆ นะ การที่เด็ก ๆ ทำสีหน้า หรืออารมณ์ตามผู้ใหญ่ จะทำให้เด็ก ๆ เข้าใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึก และวิธีการสื่อสารอารมณ์เหล่านั้นได้อย่างดีมากขึ้นนั่นเอง  

รู้หรือไม่ว่าเด็ก ๆ จะไม่สามารถแยกแยะความจริงและสถานการณ์สมมติได้ จนกว่าอายุ 8 ขวบ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายครั้งเด็ก ๆ มักคิดอะไรที่เราไม่คาดคิด และมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการมากกว่าผู้ใหญ่  และหากเราต้องการให้เด็ก ๆ ฝึกความคิดสร้างสรรค์ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อย่าลืมให้เด็ก ๆ อ่านหรือดูสิ่งที่เป็นประโยชน์ด้วยล่ะ 

ปัญหาเด็ก ๆ กินยาก เลือกรับประทานอาหารใช่ว่าจะเป็นปัญหาสำหรับลูกเราคนเดียว แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กเล็กจำนวนมากเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ ระหว่าง 2 – 5 ขวบ โดยสาเหตุนั้นอาจสันนิษฐานได้จากทฤษฎีวิวัฒนาการ เป็นต้นว่า เมื่อนานมาแล้ว เด็ก ๆ สามารถเสียชีวิตได้จากการทานอาหารที่มีพิษ เมื่อระยะเวลาผ่านไปทำให้เด็ก ๆ มีกระบวนการคิดในการเลือกกิน ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเด็ก ๆ นั่นเอง จึงอาจทำให้เด็ก ๆ มักเลือกกินและต้องการให้มีคนอยู่ข้าง ๆ เมื่อลองรับประทานอาหารใหม่ ๆ นั่นเอง 

สมองของเด็ก ๆ จะมีพัฒนาการมากที่สุดระหว่างช่วงแรกเกิด จนถึงอายุ 3 ปีแรก มากกว่าช่วงอายุอื่น ๆ สถิติที่น่าสนใจคือ เมื่ออายุครบ 3 ปี เด็ก ๆ จะมีเครือข่ายใยประสาทที่เชื่อมต่อกันมากถึง 1,000 พันล้านใย ซึ่งมากกว่าในสมองของผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า 

เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ ว่านอกจากความน่ารัก ไร้เดียงสาของเด็ก ๆ แล้ว ข้อเท็จจริงของเด็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพัฒนาการทำให้เราประหลาดใจได้ไม่น้อยเลย เด็ก ๆ เนี่ยน่ามหัศจรรย์จริง ๆ 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

https://www.factretriever.com/child-development-facts 

https://thefunmaster.com/30-unique-facts-about-our-kids/ 

https://www.horlicks.in/kids/junior/articles/10-fascinating-facts-you-didnt-know-about-toddlers.html 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning