25
June10 เทคนิค “เก็บเงิน+หารายได้” ฉบับนักเรียน/นักศึกษา
ใครว่าเป็นวัยรุ่น วัยเรียน แล้วจะรวยไม่ได้! เพราะถึงแม้โดยทั่วไปแล้ว ในช่วงวัยที่เราทั้งหลายกำลังต้องเรียนหนังสืออยู่ ไม่ว่าจะทั้งในระดับชั้นมัธยม และในระดับมหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นวัยที่ยังต้องอาศัยเงินค่าขนม หรือเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันจากผู้ปกครองเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ใช่ว่านั้นจะสามารถหยุดเราจากการมีเงินถุง เงินถัง มีเงินเพิ่มเติมจากการประหยัดอดออม และหารายได้เพิ่มเติมได้ เพราะแท้ที่จริงแล้วข้อดีของการอยู่ในวัยรุ่น วัยเรียนนั้นมีมากมายหลายประการด้วยกัน ซึ่งหลัก ๆ ก็คือการอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงมากมายในชีวิตแถมยังไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากมายอีกด้วยที่สำคัญความเป็นวัยละอ่อนยังช่วยให้เราสามารถปรับตัว และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ง่ายอีกด้วยนะ ดังสำนวนที่ว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก”นั่นเอง
ทั้งนี้ความดัดง่ายของเราก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการสร้าง “นิสัยรักการออม” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่งมี และความมั่งคั่งเลยก็ว่าได้ หากน้อง ๆ มองดูเศรษฐีมากหน้าหลายตาทั้งในไทย และในต่างประเทศ สิ่งที่น้อง ๆ จะเห็นว่าพวกเขานั้นมีเหมือนกันนั่นคือการรู้จักการออมเงิน หรือใช้เงินให้น้อยกว่าที่พวกเขาหาได้ยังไงล่ะ!
แต่เดี๋ยวก่อน! ใช่ว่าเราจะเอาแต่ออมเงินอย่างเดียวแล้วจะรวยได้แบบสายฟ้าแลบนะ เพราะแท้ที่จริงแล้วอีกสิ่งที่จะทำให้คนทุก ๆ วัยมีเงินได้มากขึ้น ก็คือการมีรายได้เพิ่มนั่นเอง ซึ่งด้วยความที่บ้านเมืองของเราเข้าสู่ยุค 4.0 แบบนี้ ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อวัยรุ่น วัยเรียน อย่างเราเลยแหละ เพราะเรานั้นจะได้เปรียบผู้ใหญ่ที่ไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยี และสามารถหางานได้หลากหลายมาก ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ในวันนี้มูล่าจึงขอมานำเสนอ วิธีการสร้างความมั่งคั่งสำหรับวัยรุ่นอย่างเรา ๆ ด้วยการเก็บเงินให้ได้เร็ว ๆ และหารายได้เสริมแบบต่าง ๆ ที่คัดสรรมาสำหรับ น้อง ๆ นักเรียน - นักศึกษา โดยเฉพาะเลย เพื่อให้น้อง ๆ มีแนวทางและมีเคล็ดวิชาในการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงและอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเก็บเงิน 1 ล้านแรกในชีวิตได้อย่างรวดเร็วก็เป็นได้
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยจย้า!
เทคนิคที่ 1 : สูตรออมเงิน 60/20/20
สูตรออมเงิน 60/20/20นั้นถือเป็นวิธีเก็บเงินที่เหมาะสมกับวัยเรียนอย่างเรา ๆ เป็นที่สุด เพราะมันไม่มีความซับซ้อน และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยง่าย ซึ่งสิ่งที่มูล่าอยากให้น้อง ๆ ทำเลยก็คือ ลองแบ่งเงินค่าขนมของเราออกให้ชัดเลยว่าจะเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยตามสูตร60/20/20ที่ว่านี้ก็คือ ให้กัน60%เป็นค่าอาหารค่าขนมค่าเดินทาง ยิ่งถ้าใครเดินทางไปโรงเรียนกับพ่อแม่ก็ยิ่งประหยัด 20% เก็บไว้ซื้อของที่อยากได้สามารถตั้งเป้าหมายได้เองว่าต้องการซื้ออะไรเพื่อเพิ่มแรงฮึดในการเก็บเงิน และส่วน 20% หยอดกระปุกออมสินไว้เพื่ออนาคต ยังไงล่ะ ง่ายสุด ๆ
เทคนิคที่ 2 : ต้องเก็บเงินก่อนใช้!
เมื่อเงินเดือน หรือเงินรายอาทิตย์ของน้อย ๆ ออกมาแล้ว ให้ทำการแบ่งตามสูตรข้างต้นในทันทีและต้องรีบเอาเงิน 20% สำหรับการออมไปซ่อนไว้ให้มิดชิดด้วยนะ ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด โดยการเก็บเงินก่อนจะใช้จริงนั้นจะถือเป็นการบังคับตัวเองแบบอ้อม ๆ ให้สามารถรักษาเงินก้อนนี้ได้ไปจนถึงสิ้นเดือนได้อย่างดีเยี่ยมเลย เพราะหากน้อง ๆ กะไว้ว่าจะใช้ชีวิตตามปกติไปก่อน แล้วค่อยมาดูว่าสิ้นเดือนจะเหลือเงินแค่ไหนแล้วล่ะก็... มูล่าขอบอกเลยว่า เป็นวิธีที่ผิดมหันต์ เพราะพอเราเห็นว่าเรายังคงมีเงินอยู่ในกระเป๋า เราก็จะเผลอใช้เงินจนเพลิน จนท้ายที่สุดก็ไม่มีเหลือแม้แต่นิดเดียวยังไงล่ะ! ฉะนั้นต้องจำให้ขึ้นใจเลยนะ ว่าเก็บก่อนใช้
เทคนิคที่ 3 : เลิกใช้แบงค์ 50
เป็นอีกวิธีสุดฮิตที่มีการการันตีแล้วว่าได้ผลมานักต่อนัก โดยหลายต่อหลายคนที่เลือกทำวิธีนี้เมื่อมาแคะกระปุกดูก็มีเงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียวโดยกฎของการออมแบบนี้ก็คือการเก็บธนบัตรใบสีฟ้า หรือที่เราเรียกกันว่าแบงค์ 50 นั่นแหละ ซึ่งเป็นธนบัตรที่ไม่ค่อยพบเจอกันนักเมื่อใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวัน นั่นจึงจะไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนของเรามากนักนั่นเอง
เทคนิคที่ 4 : ซื้อสลากออมทรัพย์
โดยปกติแล้วการออมเงินเป็นทั่ว ๆ ไปนั้น ก็จะแค่เป็นการที่เราแบ่งเงินบางส่วนออกมาเก็บไว้ในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะทั้งในกระปุก หรือในบัญชีธนาคาร แต่ทว่ามันจะไม่มีทางงอกเงยได้เลย หากเราไม่ใส่เงินเพิ่มเติมเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต่างจากการออมด้วยการซื้อสลากออมทรัพย์อย่างสิ้นเชิง เพราะวิธีการเก็บเงินในข้อนี้ไม่เพียงแต่ช่วยออมเงินได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เราทั้งหลายมีสิทธิ์ลุ้นผลสลากไปกับทางธนาคารเจ้าของสลากได้ในทุก ๆ เดือนอีกต่างหาก เผลอ ๆ หากเรามีดวงด้านนี้ อาจจะโชคดีถูกสลากจนรวยไม่รู้เรื่องเลยทีเดียวเชียว
เทคนิคที่ 5 : ห่อข้าวกลางวันไปกินเอง
แม้ราคาอาหารในโรงอาหารของโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยนั้นจะไม่แพง แถมยังถูกกว่าค่าอาหารตามห้างอยู่มากโข แต่น้อง ๆ ลองคำนวณดูสิว่า ถ้าเราเก็บเงิน 30-50 บาท ในส่วนของค่าอาหารกลางวันจำนวนนี้ไปใส่บัญชีเงินออม แค่เพียงเดือนเดียวเราก็มีเงินเก็บราว ๆ 900-1,500 บาทแล้วนะ และจะยิ่งดีเลยถ้าชวนเพื่อนในกลุ่มห่อข้าวกลางวันมากินพร้อมกัน จะได้แลกเปลี่ยนกับข้าวของแต่ละบ้านมากินร่วมกันอีกด้วย
เทคนิคที่ 6 : ใช้ของมือสอง ก็ไม่เสียหลาย ขายต่อก็ได้
ปัจจุบัน “ของมือสอง” ได้กลายเป็นสินค้าชั้นดีของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าหนุ่มสาวทั้งนักช้อป หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ขายทั้งหลายที่จะนำของดีราคาย่อมเยาว์เหล่านี้ไปเพิ่มมูลค่าต่อ โดยหากเราตาดีหน่อยล่ะก็ เราก็จะได้ของคุณภาพคับแก้ว ในราคาที่ถูกลงเกินว่าครึ่งได้ไม่ยากเลย เรียกได้ว่าทั้งประหยัด แถมยังได้ใช้งานของคุณภาพ ที่เมื่อวันใดวันหนึ่งเราเบื่อแล้ว ยังเอามาขายต่อได้อีก เริดสุด ๆ
เทคนิคที่ 7 : ลองผันตัวเป็นพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์
สิ่งสำคัญสำหรับการค้าขายออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องของการ “มีทุน” ที่หนา แต่เป็นเรื่องของไอเดีย หรือการหยิบจับสิ่งที่คนอยากซื้อมาขาย ซึ่งนั่นเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่น วัยเรียนอย่างเรา โดยเฉพาะสำครับใคร ๆ ที่ฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการแล้วล่ะก็ การเริ่มต้นเดินสายเป็นพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์ ยิ่งเหมาะเลยแหละ เพราะเราสามารถจะทำเวลาไหนก็ได้ตามที่ตัวเราเองสะดวก ไม่กระทบการเรียน แถมยังประหยัดเงินลงทุนมากกว่าการขายในตลาดแบบสมัยก่อนเยอะเลยทีเดียว เพราะค่าเช่าที่ก็ไม่ต้องเสีย ไม่ต้องไปนั่งตากแดดตากลมขายให้เหนื่อย มีแค่สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็เริ่มกิจการได้
เทคนิคที่ 8 : หารายได้จากการลงทุน ‘ความเสี่ยงต่ำ’
หากน้อง ๆ เป็นคนหนึ่งที่ฝันอยากมีเงินก้อนโต นอกจากวิธีการสุดคลาสสิกอย่างการประหยัดการใช้จ่าย และการเก็บหอมรอมริบแล้ว อีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้คุณหนู ๆ ไปถึงฝั่งฝันโดยไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวจากความเป็นมือใหม่หัดรวย ทั้งยังไม่กระทบกับการเรียน และแถมยังใช้ระยะเวลาไม่นานมากนักก็คือ ‘การลงทุนความเสี่ยงต่ำ’ ซึ่งบอกได้เลยว่าถูกใจคนงบน้อยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลงทุนที่ช้า แต่ชัวร์ ซึ่งการลงทุนประเภทนี้ก็จะมีทั้ง การฝากประจำกับทางธนาคาร, การลงทุนบนพันธบัตรรัฐบาล, การลงทุนด้วยกองทุนรวม และการลงทุนด้วยทองคำเป็นต้น
แต่ทั้งนี้ข้อควรระวังก็คือ ต้องศึกษาให้ดีก่อนการลงทุนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่ามูล่าไม่เตือน และถ้าสำหรับใครที่อายุยังไม่ถึงขั้นต่ำที่จะสามารถลงทุนได้ ลองนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับคุณพ่อ คุณแม่ ดูนะ ให้ท่านช่วยเหลือเอาเงินของเราไปลงทุนแทนเราได้
เทคนิคที่ 9 :ทำงานพาร์ทไทม์ตอนปิดเทอม ก็เริดอยู่นะ
วัยรุ่นยุคใหม่อย่างเรา ๆ อาจจะมองแค่การทำงานพิเศษว่าสามารถทำได้แค่แบบออนไลน์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วตลาดการทำงานแบบออฟไลน์ก็ยังคงต้องการคนทำงานมากไม่น้อยเลย ซึ่งเราสามารถแบ่งเวลาว่าง เสาร์-อาทิตย์ หรือเวลาช่วงปิดเทอม ไปลุยทำงานพาร์ทไทม์ ไม่ว่าจะการเป็นพนักงานตามคาเฟ่ – ร้านกาแฟ, เป็นแคชเชียร์ตามห้างสรรพสินค้า รับจ้างแต่งหน้า รับจ้างถ่ายภาพ เป็นต้น
ข้อสำคัญของงานพาร์ทไทม์ก็คือ เราอาจจะได้ทักษะ หรือประสบการณ์บางอย่าง เพื่อนำมาต่อยอดกับงานที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปได้ด้วยยนะ ประโยชน์สองเด้งเลย
เทคนิคที่ 10 : ลองทำเพจของตัวเองดูก็ไม่เสียหาย
หากเราเป็นคนที่มีทักษะพิเศษ มีลีลาการพูดที่เป็นเอกลักษณ์ หรือแม้แต่มีงานอดิเรก และความชอบที่น่าสนใจ การลองเปิดเพจเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ ถือเป็นอีกโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้กับเราไม่วันได้ก็วันหนึ่ง ซึ่งทั้งยูทูปเบอร์ และการรับรีวิวสินค้า ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่กำลังมาแรงมาก ๆ เลยทีเดียว ซึ่งไหน ๆ เราก็อยากหาเงินเพิ่มอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองทำดูสักตั้งล่ะ!
ท้ายที่สุดนี้มูล่าก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นักเรียน - นักศึกษา ทุก ๆ คนที่อยากลุกขึ้นมาเก็บหอมรอมริบ และสร้างรายได้กันนะครับ มูล่าขอรับรองเลยว่าน้อง ๆ มาถูกทางแล้วอย่างแน่นอน และหากน้อง ๆ ยังคงยึดมั่นในเส้นทางนี้ไปอย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็... เงินล้านก้อนแรกก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
References
