ในหนึ่งวัน เพื่อน ๆ คิดว่าเราใช้เวลาได้คุ้มค่ามากน้อยขนาดไหน เราสามารถทำงานที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์จริง ๆ หรือไม่ หลายครั้งเราพบว่า เราใช้เวลากับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ จนงานไม่เสร็จ หรือเราไม่สามารถเอาใจใส่งานตรงหน้าได้ดี ก็น่าเสียดายที่เราไม่สามารถทำให้วันนั้น ๆ เป็นประโยชน์ได้เต็มที่  

หากเพื่อน ๆ อยากทำอะไรอย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพมากขึ้นในแต่ละวัน เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตแบบหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนั้นหรอกนะ มีวิธีการง่าย ๆ ที่เราทำได้ทุกวัน จนทำให้เราโฟกัส ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น เคล็ดลับจะมีแบบไหนกันบ้าง ตามอ่านในบทความวันนี้ได้เลย  

ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ ขั้นตอนแรกของการทำให้สำเร็จก็คือการวางแผน นี่ก็ไม่ต่างจากการใช้เวลาในแต่ละวันของเรา เรามีเวลาจำกัด เราก็ควรวางแผนประจำวัน ให้เรารู้ว่าสิ่งที่ต้องทำมีอะไรบ้าง จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ หรือเตรียมตัวอย่างไร ลองดูว่าสิ่งที่เราคิดว่าต้องทำวันนี้ เป็นความจำเป็นจริง ๆ หรือไม่ ถ้าเราวางแผนจะทำอะไรซะเยอะแยะ จนเราไม่สามารถทำได้ เราเองนั่นแหละที่จะหมดกำลังใจในวันต่อไป เต็มที่เลย วางแผนแค่ 3 – 5 อย่างในแต่ละวัน ดูความสำคัญของแต่ละงานด้วยล่ะ หลายคนรู้แม้กระทั่งว่าเวลาไหนที่ตัวเองทำงานได้เต็มที่ มีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็จะเอางานที่มีความยากมากที่สุดไปทำในเวลานั้นนั่นเอง เพื่อน ๆ ลองสำรวจตัวเองก็ได้ บางคนชอบเวลาเช้า เพราะเงียบสงบ สมองยังโล่ง บางคนเป็นมนุษย์กลางคืน ชอบทำงานตอนที่ฟ้ามืดแล้วเท่านั้นก็ไม่ว่ากัน 

เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่ละวัน เราต้องทำอะไรบ้าง เราควรตั้งเป้าหมายให้ชัดไปเลย ไม่ใช่แค่รู้ว่าต้องทำอะไร เช่น หากวันนี้ตั้งใจจะโทรหาลูกค้าเจ้าใหม่ ก็กำหนดมาเลยว่ากี่เจ้า จะมีสคริปในการพูดอะไรอย่างไร มีเจ้าไหนและเราควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ทำให้เรามีเป้าหมายในใจที่ชัดเจนขึ้นนั่นเอง 

เวลาตอนเช้า เรียกได้ว่าเป็นเวลาทองของวันเลยก็ว่าได้ เราควรเริ่มวันด้วยความสดชื่น ความสุข ด้วยการหากิจกรรมที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นการยืดเส้นยืดสาย การเล่นโยคะ การนั่งสมาธิ การจดบันทึก หรือการฟังเพลงผ่อนคลาย ให้เรารู้สึกดี และมีความพร้อมในการเผชิญความท้าทายของวันนั้น ๆ  

ไม่ว่า งานที่ต้องทำจะเยอะขนาดไหน แต่คนเราก็ไม่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องเป็นเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงเหมือนหุ่นยนต์ได้ขนาดนั้น สมองและร่างกายต้องการการพักระหว่างวันด้วย อาจจะเป็นการพักเวลาสั้น ๆ 10 นาที ลุกเปลี่ยนอิริยาบถ พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการไปหาของอร่อย ๆ ระหว่างวันก็จะช่วยให้วันนั้นไม่เครียดจนเกินไป และเราเองจะสามารถกลับมาทำงานที่เหลือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยนะ ลองหาเวลาพักสมองระหว่างวันที่เพื่อน ๆ ชอบดูล่ะ  

หลายครั้งที่มีงานยิบย่อยที่เราไม่ต้องรับมาทำคนเดียวเสียหมด งานบางอย่างเราสามารถสอนน้อง ๆ ที่ทำงานในความดูแลของเราให้ทำ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ และเป็นการเบาแรงเราได้อีกด้วย แต่ก็อย่าเอาแต่ผลักงานไปให้คนอื่นล่ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราอู้งาน 

เดี๋ยวนี้สิ่งรบกวนการทำงานมีเยอะแยะ ถ้าจะให้นึกเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือโทรศัพท์มือถือที่เต็มไปด้วยแอป- 
พลิเคชันเพื่อความบันเทิง หรือการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ถ้าเพื่อน ๆ จำเป็นต้องใช้เพื่อการทำงานคงไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าไม่เกี่ยวกับเนื้องานล่ะก็ ลองเปิดโหมดปิดเสียง หรือโหมดโฟกัสการทำงาน รอให้จบวันเสียก่อน เราค่อยไปตามติดเทรนด์ หรือความบันเทิงหลังจากนั้นก็ยังไม่สาย 

การวางแผนจะมีประโยชน์อะไร หากเราไม่ได้ประเมินผลของตัวเอง เมื่อจบวันแล้ว เราควรเช็คดูว่า วันนี้เราได้ทำตามเป้าหมายมากน้อยขนาดไหน มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้าง และเราจะทำให้วันต่อไปดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าแผนการจะดีขนาดไหน แต่เราไม่เคยสังเกตสิ่งรบกวนหรืออุปสรรคเลย ก็ยากที่จะทำให้เราทำตามเป้าหมายได้ และอย่าลืมขอบคุณตัวเองที่พยายามทำแต่ละวันให้ดีที่สุดด้วยนะ 

 เป็นอย่างไรกันบ้าง วิธีการที่บอกเล่าไม่ได้ยากเกินไปใช่ไหม ทั้งหมดเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เราสามารถค่อย ๆ ปรับไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะได้น้อยหรือมาก ผลลัพธ์ของการทำงานก็จะต้องดีขึ้นได้แน่ ๆ เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อน ๆ ลองทำตามนี้แล้วได้ผล อย่าลืมแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ ให้คนรอบข้างด้วยนะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก  

https://www.calendar.com/blog/21-minute-habits-that-can-boost-your-productivity-by-100/ 

https://www.linkedin.com/pulse/daily-habits-maximize-productivity-10-proven-ways-get-hargrave-792yc/ 

บทความ: MULA Learning 
รูปประกอบ: MULA Learning