Global searching is not enabled.
Skip to main content

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

มือใหม่หัดทำสมาธิ เริ่มต้นยังไงดีนะ

พุทโธ พุทโธ… หลายคนอาจนึกถึงคำนี้ในใจเวลาพยายามข่มใจไม่ให้โกรธใคร ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการทำสมาธิคือ จดจ่อกับลมหายใจ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน แต่ความจริงแล้ว การทำสมาธิไม่จำเป็นต้องทำเมื่อมีอารมณ์โกรธ หรือคิดฟุ้งซ่าน เพราะการทำสมาธิเป็นประจำมีประโยชน์กว่าที่คิด

แต่ว่า การทำสมาธิเนี่ย ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับทุก ๆ คนถูกมั้ย บางคนทำได้ไม่กี่นาที ก็รู้สึกเมื่อย เหนื่อยและไม่อยากทำต่อแล้ว เหมือนมีมารผจญเราทุกครั้งไป วันนี้มูลาขออาสาแนะนำเคล็ดลับเพื่อการทำสมาธิ เพื่อให้เราได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และทำได้ต่อเนื่องกันนะ ไปดูกันเลย

 

ทำสมาธิมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

            อย่างที่แนะนำไปข้างต้น การทำสมาธิไม่จำเป็นต้องทำเมื่อมีอารมณ์ขุ่นมัว หรือรู้สึกไม่สบายใจเท่านั้น เพราะการทำสมาธิมีประโยชน์อื่นๆ ไม่ว่าเป็นทางจิตใจ อารมณ์ หรือทางสุขภาพร่างกาย มีงานวิจัยที่ระบุข้อดีของการทำสมาธิไว้ทั้งนั้น

            อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์พบแพทย์ (Pobpad.com) ประโยชน์ของการทำสมาธิด้านจิตใจและอารมณ์ ได้แก่

  1. ช่วยให้จิตใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน
  2. ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือความเครียด
  3. ช่วยลดอารมณ์หรือความคิดในแง่ลบ
  4. ช่วยเพิ่มจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
  5. ช่วยเพิ่มความอดทนอดกลั้น
  6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนหรือการทำงาน

 

นอกจากนี้ ยังพบประโยชน์ของการทำสมาธิในการรักษาโรคอีกด้วย เช่น

  1. ลดภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล
  2. บรรเทาอาการร้อนวูบวาบของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
  3. บรรเทาอาการปวดศีรษะจากความเครียด
  4. ลดอาการนอนไม่หลับ
  5. บรรเทาอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ
  6. บรรเทาโรคที่อาจเกี่ยวข้องความเครียด เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหอบหืด เป็นต้น

หากเพื่อน ๆ  ต้องการได้รับประโยชน์ที่บอกไปอย่างเต็มที่แล้วละก็ ไม่ใช่แค่ว่าทำซ้ำ หรือ 2 ครั้งจะเพียงพอ ข้อมูลจาก สสส. (สำนักศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ) แนะนำว่า ควรทำสมาธิวันละ 10 – 30 นาที เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลง

 

เคล็ดลับฝึกสมาธิแบบไม่ทรมาน

            หลังจากเข้าใจประโยชน์ของการทำสมาธิไปแล้ว หลาย ๆ คนก็อยากพุ่งตัวไปทำสมาธิกันเลยใช่ไหม ช้าก่อน ขอให้เพื่อน ๆ มือใหม่ได้ลองดูเทคนิคการทำสมาธิที่ใช้ได้อย่างสากล ไม่ใช่หลักการเฉพาะชาวพุทธ เพื่อน ๆ ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ ก็สามารถลองทำกันได้ ดังนี้

  1. ตั้งเป้าหมายในการตั้งสมาธิแบบง่าย ๆ
    หากจะทำสมาธิได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อน ๆ ควรเริ่มตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง เช่น วันละ 10 นาทีก่อนนอน ของทุกวัน การจัดเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างวันจะทำให้เราทำสมาธิได้อย่างเป็นกิจวัตร เป้าหมายของเพื่อน ๆ อาจระบุด้วยว่าอยากทำสมาธิแบบใด นั่ง เดิน ยืน หรือนอน สามารถสลับกันไป จะได้ไม่เบื่อหาต้องทำสมาธิอย่างต่อเนื่อง
  2. เลือกสถานที่ เวลาและเสื้อผ้าที่เหมาะสม
    หลังจากมีเป้าหมายในการทำสมาธิแล้ว ก่อนเริ่ม ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสม เช่น พื้นที่เงียบ ๆ ในบ้าน หาเสื่อ ที่รองนั่งหรือเก้าอี้ที่นั่งสบาย เพื่อการทำสมาธิ เลือกเวลาที่เราจะไม่ง่วงหรือเหนื่อยล้าเกินไปในการทำสมาธิ รวมทั้งเลือกใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้เราไม่รู้สึกปวดเมื่อยนั่นเอง
  3. พยายามพักความคิดรบกวนระหว่างวัน ก่อนเริ่มทำสมาธิ

ระหว่างวัน เพื่อน ๆ ก็คงต้องเจอเรื่องเครียด เรื่องน่าปวดหัวหรือปัญหาที่ยังแก้ไม่จบ แต่ก่อนทำสมาธิทุกครั้ง ขอให้ย้ำเตือนกับตัวเองว่า จะพักเรื่องราวเหล่านั้นไว้ก่อน เพื่อจะได้จดจ่อกับปัจจุบัน ทำสมาธิได้อย่างเต็มที่

  1. เริ่มทำสมาธิ โดยสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของร่างกาย หรือลมหายใจ

อันนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน แต่เทคนิคเบสิกในการทำสมาธิ คือการที่เราสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น หน้าท้องยืดยุบ หรือลมหายใจกำลังเข้าออกอย่างไรบ้าง เพื่อลดความฟุ้งซ้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

  1. เปิดเพลงหรือเสียงบรรยายเพื่อการทำสมาธิ

สำหรับหลายคนที่รู้สึกว่า การทำสมาธิแบบเงียบ ๆ ยากเกินไป ยังไงก็ไม่รอด เพื่อน ๆ ลองหาเพลงบรรเลงเพื่อการทำสมาธิ เพื่อสร้างบรรยากาศการทำสมาธิ หรือลองหาเสียงบรรยาย แนะนำการทำสมาธิว่า ช่วงไหนควรทำอย่างไร ซึ่งหาได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ ยูทูป หรือแอปพลิเคชันเพื่อการสมาธิก็ช่วยพาเพื่อนทำสมาธิได้ยาวนานมากขึ้น

  1. อย่าพยายามข่มความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการทำสมาธิ

จุดประสงค์อย่างหนึ่งของการทำสมาธิ คือการที่เรารู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีอะไรมากระทบจิตใจของเรา หรืออารมณ์ของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ไม่ได้หมายความว่าเราต้องบังคับจิตให้ว่างเปล่าไปตลอดการทำสมาธิ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความรู้สึกใดๆ เราควรตระหนักว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และคอยเฝ้าดูว่าอารมณ์อันนี้จะเปลี่ยนแปลงหรือหายไปอย่างไรต่างหาก ทำให้เราเข้าใจอารมณ์ของเรามากขึ้นนั่นเอง

           

            รู้ประโยชน์และเทคนิคการทำสมาธิแบบนี้แล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ทำสมาธิได้ต่อเนื่องสมใจอยาก และได้ประโยชน์จากทำสมาธิแบบเต็มที่เลยนะ มูลาเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ มือใหม่หัดทำสมาธินะ

 

 

ที่มา:

https://www.pobpad.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98

https://www.thaihealth.or.th/8-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98-2/

https://thaicam.go.th/wp-content/uploads/2019/06/7-2.pdf

https://www.insider.com/guides/health/mental-health/meditation-tips-for-beginners

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning 

 

  • Share