เชื่อได้เลยว่า “ความฝัน” หนึ่งเดียวที่คนเราแทบทุกคน โดยเฉพาอย่างยิ่ง “มนุษย์วัยทำงาน” นั้นต่างก็มีเหมือน ๆ กันนั่นก็คือการมีเงินถุงเงินถัง มีเงินก้อน และทรัพย์สินมากมาย จนสามารถถูกเรียกว่าเป็น “คนรวย” ได้อย่างภาคภูมิ

แต่ทว่า “ความฝัน” กับ “ความเป็นจริง” มันอาจจะค่อยข้างไกลกันเสียหน่อย เพราะแท้ที่จริงเราต่างรู้กันอยู่เต็มอกว่าการเป็นคนรวยนั้นยากมากเพียงใด เพราะถ้ามันเป็นเรื่องง่าย ๆ ป่านนี้เราคงเห็นคนรวยเดินกันเต็มท้องถนนไปหมดแล้ว

เดี๋ยวก่อน! เราไม่ได้กำลังจะบั่นทอนกำลังใจของเพื่อน ๆ แต่อย่างใดนะ เพียงแค่อยากให้เห็นว่า หากเราอยากเป็นคนรวยจริง ๆ แล้วล่ะก็... แค่ความฝันอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ แต่มันยังต้องอาศัยทั้งความตั้งใจ ความพยายาม รวมไปถึงวินัย และการแก้นิสัยบางประการของตัวเราอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะคนรวยที่เราเห็นกันตามหน้าจอโทรทัศน์หลาย ๆ คน ต่างก็ “เคยจน” กันมาก่อนทั้งนั้น

หลายคนก็คงสงสัยว่า... แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้ “คนจน” กับ “คนรวย” นั้นต่างกัน แล้วทำไมคนรวย พอเมื่อรวยแล้วถึงได้รวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป ส่วนคนจนก็ยังคงจนเหมือนเดิม คำตอบมันอยู่ที่ “วิธีคิด” นั่นเอง

ซึ่งวิธีที่คนรวยหรือมหาเศรษฐีนั้นคิด หรือมองโลกใบนี้นั้นแตกต่างจากคนทั่วๆ ไปอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

“การออม” คือ “จุดเริ่มต้น” ของความรวย

การออม นั้นถือเป็นการกระทำที่มีประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะนอกจากจะช่วยให้เราได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า “เงินเก็บ” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของ “เงินก้อนโต” แล้ว แถมหากในวันหนึ่งเมื่อคุณมีเงินเก็บจำนวนที่มากพอ มันยังสามารถแปรเปลี่ยนไปเป็น “ทุน” ที่เราสามารถเพิ่มมูลค่าให้งอกเงยขึ้นอีกได้ด้วยนะ คนรวยส่วนมากจึงเริ่มต้นขั้นตอนแรกจากการหัดประหยัดการใช้จ่าย และหันมาอดออมนี่แหละ

ทั้งนี้แม้การออมจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่แท้ที่จริงแล้วการเก็บหอมรอบริบในทุกวันนี้นั้นมันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน เพราะค่าใช้จ่ายรอบตัวนั้นมากมายมหาศาล ซึ่งหากเราสามารถบริหารจัดการเงินของเราได้เป็นอย่างดีจนมีเงินเหลือเก็บอย่างต่อเนื่องทุก ๆ เดือนแล้วล่ะก็ เรานั้นก็กำลังปลูกฝังนิสัยที่ดีในระยะยาวให้กับตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และรู้คุณค่าของเงินที่หามาได้ทุกบาท ทุกสตางค์ นี่แหละ คือหนทางสู่ความรวยที่แท้จริงนั่นเอง

แม้จะสำคัญ แต่ออมเงินอย่างเดียวนั้น “ไม่พอ”

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ฝันอยากมีเงินก้อนโต นอกจากวิธีการสุดคลาสสิกอย่างการประหยัดการใช้จ่าย และการเก็บหอมรอมริบแล้ว อีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือการหาหนทาง “สร้างรายได้เพิ่ม” นั่นเอง ยิ่งมีเงินมากขึ้น ก็เท่ากับว่าเราสามารถเก็บออมได้มากขึ้น ใช้จ่ายได้มากขึ้น แถมรวยได้เร็วขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้หนึ่งในรูปแบบของการสร้างรายได้เสริมที่เป็นที่นิยมมากที่สุดนั้นก็คือ ‘การลงทุน’ หรือการ ‘ให้เงินทำงานแทนเรา’ นั่นเอง ซึ่งการลงทุนนั้นมีมากมายหลายรูปแบบมาก อย่าลืมไปลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะ

รู้จักตัวเองให้มาก เก่งอะไร ถนัดด้านไหน ต้องเอาให้สุด

สิ่งที่ทำให้คนรวยยิ่งรวยมากขึ้น นั้นก็เพราะตัวเขานั้นรู้จักความสามารถ และทักษะของตนเองที่ทำได้ดี ซึ่งนอกจากจะทำให้เขา “แตกต่าง” จากคนอื่น ๆ แล้ว เขายังสามารถมุ่งพัฒนาทักษะด้านที่ตนชำนาญจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ไปได้โดยปริยาย ฉะนั้นแล้วอย่าลืมหันมาสำรวจตัวเองกันด้วยนะว่าเราเก่งอะไรกันแน่ เพราะในความเป็นจริงคนเราไม่จำเป็นต้องเก่งไปทุกอย่าง เพียงแค่เก่งให้สุดไปด้านใดด้านหนึ่งก็เป็นคนที่ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีได้แล้ว

เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนอยู่ภายใต้ความผันแปร ไม่มีอะไรที่จะแน่นอนยังยืนเสมอไป พูดง่าย ๆ ก็คือ ความผิดหวัง และความสูญเสียนั้นถาโถมเข้ามาได้ทุกเมื่อ วันนี้อยู่สุขสบาย พรุ่งนี้อาจจะมีเรื่องหนักใจตามมา ก็เหมือนกับการที่จู่ ๆ เกิดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ชนิดนี้แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนั่นแหละ ซึ่งคนรวยรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี พวกเขาจึงมีการ “เตรียมแผนสอง” ไว้อยู่เสมอ เผื่อไม่ให้วันที่ล้มลงนั้นมาถึง

ฉะนั้นหากเราทั้งหลายได้รู้ว่าความไม่แน่นอนเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำก็คือ การรู้จักเรียนรู้ และเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับเรื่องร้าย ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ตัวเรานั้นประคับประคองตัวเอง และครอบครัวผ่านวันอันขมขื่นไปได้ ท้ายที่สุดความสำเร็จที่เราใฝ่ฝันก็จะรอเราอยู่ที่ปลายอุโมงค์อย่างไม่ต้องสงสัย

การเป็น “เจ้าของกิจการ” คือ หนทางที่ดีที่สุด

แน่นอนว่าการมีอาชีพต่าง ๆ แบบที่เราทำ ๆ กันทุกวันนี้นั้นทำให้เราสามารถ “หาเงินได้” แต่หากมองในระยะยาว อาชีพที่เป็น “ลูกจ้าง” คนอื่น ก็ช่วยให้เราแค่มีเงิน สร้างเนื้อสร้างตัว ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเงินเดือนของเราส่วนมากก็ทำให้เราอยู่ได้แค่เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเอง ฉะนั้นหนทางสู่ความร่ำรวยที่แท้จริง คือการหันมาเป็น “เจ้านายตัวเอง” และสร้างธุรกิจยังไงล่ะ

แต่ทั้งนี้ สิ่งที่เราต้องเตือนเพื่อน ๆ เลยก็คือการลงทุนเปิดกิจการอะไรสักอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องของดวง ไม่ใช่เรื่องของโชค หากแต่ผู้คนที่ร่ำรวยจากการลงทุนได้ต่างรู้จักว่าพวกเขาต้องทำอะไร ขายสินค้า หรือบริการให้กับใคร เพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากที่สุด ถ้ามันง่ายอย่างที่เห็น ป่านนี้คนส่วนใหญ่ก็ต้องรวยจากการเปิดกิจการของตัวเองกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นหากอยากมีเงินก้อนจากการเป็นนายของตัวเองแล้วล่ะก็ ต้องทุ่มแรงกาย และแรงใจให้กับมันด้วยล่ะ และอย่าลืมศึกษาสิ่งที่ควรรู้ให้แตกฉาน

หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ

แม้หลายต่อหลายคนอาจจะมองว่า “การศึกษา” นั้นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วในปัจจุบัน แต่นั่นไม่ใช่มุมมองในสายตาของคนรวยอย่างแน่นอน เพราะคนที่ประสบความสำเร็จมากมายนั้นเข้าใจดีกว่า ความรู้ หรือทักษะ นั้นเป็นสิ่งที่จะอยู่ติดตัวไปจนตาย รู้มากก็ยิ่งหาช่องทางในการทำงาน ทำเงินได้มาก นั่นจึงเป็นสาเหตุให้คนรวยทั้งหลายไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ นั่นเอง

เป็นยังไงกันบ้าง...? เมื่อมาถึงตรงนี้ จาก “ความฝัน” ที่ดูจะเลือนลาง ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ? ซึ่งหากเรามองให้ดีจะเห็นได้เลยว่าสิ่งที่คนรวยคิดนั้นไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย เพียงแต่ตัวเราเองอาจจะเผลอ มองข้ามมันไป และไม่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ เท่านั้น ฉะนั้นแล้วเมื่อเราได้รู้ถึงมุมมองเหล่านี้ ก็ถึงเวลาแล้วแหละที่จะนำมันมาปรับใช้กับตนเอง และมาทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงกันดีกว่า!

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning