8
Julyออกกำลังกายอย่างไร? ให้ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา!
ด้วยสภาพสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และความเร่งรีบ แถมไม่ว่าเราจะหันไปทางไหนก็มีแต่เรื่องที่จะต้องใช้เงินกันทั้งสิ้น นั่นจึงทำให้เราหลาย ๆ คน ใช้เวลาที่มีในแต่ละวันโฟกัสไปกับการทำงานหนัก ๆ เพื่อไม่ให้ปากท้องของเราเดือดร้อน ซึ่งในความเป็นจริง การโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปนั้นอาจจะกำลังทำให้เรา “ละเลย” อีกสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตอย่างเช่น การดูแลสุขภาพของตัวเราเองให้ดีอยู่ก็เป็นได้...
ทั้งนี้ แม้การทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้เรามีเงินนั้นจะเป็นเรื่องดีในระยะยาวก็จริง เพราะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ขัดสน และยังช่วยให้เรามีเงินเก็บได้มากขึ้นอีกด้วย แต่การ “หักโหม” มากเกินไปนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน ซึ่งมูล่าขอบอกเพื่อน ๆ เลยว่า การมีสุขภาพที่ดีนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญต่อเราไม่แพ้การมีหน้าที่การงานที่มั่นคง และมีเงินถุงเงินถังเต็มกระเป๋า เลยแหละ เพราะหากเราเอาแต่ทำงาน จนกลายเป็นคนเจ็บป่วยได้แบบง่าย ๆ นั่นก็จะทำเงินที่เราอุตส่าห์หามาอย่างเหน็ดเหนื่อย กลายเป็นค่ารักษาพยาบาลไปแทนที่จะได้ใช้จ่ายอย่างมีความสุขยังไงล่ะ!
ซึ่งหลาย ๆ คนก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าวิธีการง่าย ๆ และไม่ซับซ้อนที่จะช่วยให้เราสามารถรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็คือ “การออกกำลังกาย” นั่นเอง แต่เดี๋ยวก่อน! ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ มูล่าไม่ได้จะแนะนำให้คนหาเช้ากินค่ำอย่างเรา ๆ เสียค่าบริการฟิตเนสทุก ๆ เดือน หรอกนะ เพราะนั่นก็คงจะเป็นภาระที่หนักอึ้งเกินไปใช่ไหมล่ะ?
ดังนั้นวันนี้มูล่า จึงขออาสามาเสนอ เทคนิคการออกกำลังกายที่บอกเลยว่าทั้งประหยัดทั้งเงิน และประหยัดเวลา ไม่ต้องไปฟิตเนส แถมยังทำได้ง่าย ๆ ไม่รบกวนตารางชีวิตของเพื่อน ๆ อีกด้วย
จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย
เทคนิคที่ 1 : หมั่นทำงานบ้าน งานเรือน รับรองหุ่นเป๊ะ แถมบ้านก็ปัง
มูล่าขอบอกเลยว่า การทำงานบ้านนี่แหละถือเป็นวิธีที่เราสามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะนอกจากจะได้ขยับขยายร่างกายแบบครบทุกส่วนแล้ว เราเองก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับการออกกำลังรูปแบบนี้เลยแม้แต่น้อย แถมการกวาดขัดเช็ดถูก็ถือเป็นประโยชน์อีกเด้งที่จะทำให้บ้าน หรือห้องของเรานั้นสะอาดน่าอยู่อีกด้วยนะ พอบ้านสวย บ้านดี อารมณ์เราก็ดีตาม เห็นไหมล่ะ? มีแต่ได้กับได้!
ทั้งนี้หากเพื่อน ๆ สงสัยว่ากิจกรรมการดูแลบ้านแต่ละอย่างนั้นใช้พลังงานมาก – น้อย เพียงใด มูล่าก็ได้สรุปปริมาณแคลอรีที่เราสามารถเผาผลาญได้กับการทำงานบ้านยอดฮิต มาให้คร่าว ๆ แล้ว ดังนี้
- การล้างจาน เผาผลาญแคลอรีได้ 63 กิโลแคลอรี
- การกวาดบ้าน ถูบ้าน เช็ดกระจก เผาผลาญแคลอรีได้ตั้งแต่ 376-752 กิโลแคลอรี
- การซักผ้าด้วยมือ เผาผลาญแคลอรีได้ตั้งแต่ 75-100 กิโลแคลอรี
- การจัดเตียง เผาผลาญแคลอรีได้ 70 กิโลแคลอรี
- การตัดหญ้า เผาผลาญแคลอรีได้ 135 กิโลแคลอรี
- การล้างรถ เผาผลาญแคลอรีได้ 150 กิโลแคลอรี
เห็นไหมล่ะว่าการทำงานบ้านนั้นเริ่ดมากแค่ไหน บางกิจกรรมเผาผลาญมากการวิ่งบนลู่ในฟิตเนสเสียอีก ว่าไม่ได้เลยนะขอบอก คุ้มสุดอะไรสุด
เทคนิคที่ 2 : รู้จัก “เดิน” ให้มากขึ้น ทั้งประหยัด แถมเผาไขมันได้ดีเยี่ยม
แม้ว่า “การเดิน” อาจจะเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้เผาผลาญพลังงานได้ครั้งละมาก ๆ เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่าการเดินนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างมากเลยทีเดียว เพราะหากเพื่อน ๆ หันมาเดินทุก ๆ วันให้ได้อย่างน้อย 10,000 ก้าว แล้วล่ะก็... เจ้ากิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะสามารถช่วยเพื่อน ๆ แข็งแรง และมีความดันโลหิตที่ดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อเลยแหละ
นอกจากนี้ ข้อดีอีกข้อของการเดินก็คือ มันถือเป็นการเริ่มต้นการกลับมาออกกำลังที่ “ไม่หนัก” จนมากเกินไป และเหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายแบบเซฟข้อเข่า โดยการเดินนั้นจะมีแรงกระแทกระหว่างออกกำลังกายที่ต่ำมากกว่าการวิ่งหลายเท่าตัวเลย ทั้งนี้การเดินเป็นประจำยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนลงได้ 30% เชียวนะ
ดังนั้นหากเพื่อน ๆ เป็นหนึ่งในคนที่แทบจะไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายต่อหลายปี การเริ่มต้นกลับมาออกกำลังด้วยการเดิน ก็จะไม่ถือเป็นภาระที่หนักหนาสำหรับร่างกายของเรามากเกินไปนั่นเอง พอหลังจากเราเดินเหินอย่างสม่ำเสมอจนร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว การจะขยับไปออกกำลังกายที่ใช้แรงมากขึ้นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากเพื่อน ๆ เห็นว่าการเดินนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากในเมืองไทย เพราะแดดข้างนอกช่างร้อนเสียเหลือเกิน เราก็สามารถเลือก “ช่วงเวลา” ที่เราจะเดินได้ เช่น การออกเดินตอนเช้ามืดก่อนไปทำงาน เพื่อให้ร่างกายสัมผัสกับแดดอ่อน ๆ หรือแม้แต่การเดินขึ้นบันได แทนการใช้ลิฟต์ เพื่อน ๆ ก็จะสามารถเดินได้โดยไม่ร้อนแล้วเห็นไหมล่ะ นอกจากนี้ หากเพื่อน ๆ ลองเปลี่ยนมาเดินแทนที่จะขับรถเวลาเราไปสถานที่ที่ไม่ไกลจากบ้านของเรามาก ก็ถือเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะนอกจากช่วยเผาผลาญแคลอรีได้แล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมัน ประหยัดเงินไปในตัวด้วยนะ ปังมาก
เทคนิคที่ 3 : กระโดดเชือก วิธีสุดคลาสสิก ที่เบิร์นได้มากเหลือเชื่อ
การกระโดดเชือกถือเป็นอีกหนึ่งกีฬายอดฮิตที่บอกได้เลยว่าเผาผลาญพลังงานได้โหดมาก แถมไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะแยะยุ่งยากอีกด้วย เรียกได้ว่าเหมาะกับมือใหม่หัดฟิตมากเลยทีเดียว โดยการออกกำลังกายด้วยวิธีนี้จะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 1,300 กิโลแคลอรี เพียงแค่กระโดดติดต่อกันให้ครบ 1 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเผากันจนไขมันแห้งเลยทีเดียว แต่หากมือใหม่หัดฟิตอย่างเรามองว่า 1 ชั่วโมงนั้นอาจจะนานไป ก็ลองหันมาเริ่มต้นจากการกระโดดเชือกต่อเนื่องให้ได้ครบ 10 นาที เท่านั้นร่างกายของเราก็สามารถเบิร์นแคลอรีได้เท่ากับการวิ่งในระยะทาง 1.6 กิโลเมตร เลยนะขอบอก
เทคนิคที่ 4 : สร้างเอวเอสด้วย ฮูลาฮูป
การเล่นฮูลาฮูปนั้นก็เป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงเยอะ ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ วัยไหนก็สามารถเล่นได้ เนื่องจากการออกกำลังด้วยฮูลาฮูปนั้นจะเน้นการบริหารกล้ามเนื้อด้านข้าง กล้ามเนื้อช่วงเอว รวมไปถึงกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ดังนั้นการออกกำลังกายรูปแบบนี้จึงจะไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อข้อต่อ และกระดูกของเรานั่นเอง
นอกจากนี้ด้วยการที่ฮูลาฮูปนั้นเป็นการเน้นบริหารกล้ามเนื้อช่วงเอว รวมไปถึงกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกเป็นหลัก มันจึงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของสาว ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะหากเราเล่นมันอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำแล้วล่ะก็ การจะมีเอวเอส เอวคอด นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ทั้งนี้การเล่นฮูลาฮูปเป็นเวลา 30 นาที สามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 150-200 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว แถมที่สำคัญการเล่นฮูลาฮูปไม่ได้ทำให้เราหุ่นดีเพียงอย่างเดียวนะ เพราะมันยังช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น และยังช่วยเพิ่มทักษะการทรงตัวให้ดีขึ้นอีกด้วย
เทคนิคที่ 5 : เรียนออกกำลังฟรีที่บ้านได้ด้วยมือถือเครื่องเดียว
ไม่มีใครไม่รู้จักแพลตฟอร์มวิดีโอชื่อดังอย่าง YouTube อย่างแน่นอน นอกจากจะอัดแน่นด้วยความบันเทิงหลากหลายรูปแบบแล้ว มันยังมีคลิปวิดีโอสอนออกกำลังกายอยู่ไม่น้อยเลยแหละ ซึ่งหากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน และอยากได้ความรู้แบบเน้น ๆ วิธีการนี้ถือเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดแล้ว โดยเหล่าคลิปสอนออกกำลังนั้นก็จะมีตั้งแต่ระดับง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ที่ใช้เวลาออกกำลังประมาณ 10 กว่านาที ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ที่แม้แต่ดาราดัง ๆ หุ่นฟิต ๆ ก็ต่างอาศัยคลิปเหล่านี้ในการออกกำลังกันทั้งสิ้น ทั้งนี้โดยรวมแล้วการเรียนออกกำลังกายบน YouTube นั้น อย่างมากก็จะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง แน่นอน เรียกได้ว่าทั้งง่าย แถมยังประหยัดเงิน และประหยัดเวลาได้มากเลยแหละ
อย่างไรก็ตาม หากเพื่อน ๆ มีความกังวลเรื่องภาษา และไม่ถนัดภาษาอังกฤษเอาเสียเลย เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกเช่นกัน เพราะคลิปสอนออกกำลังที่เป็นภาษาไทยนั้นมีเยอะมากไม่แพ้ภาษาอังกฤษเลยแหละ แถมการออกกำลังตาม YouTube ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับมือใหม่หัดฟิตอย่างเรามาก ๆ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ต้องใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายตามคลิปสอนใน YouTube เหล่านี้ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย เพียงแค่เพื่อน ๆ มีเสื่อโยคะสักผืน กับรองเท้าผ้าใบสักคู่ และใจที่พร้อมจะฟิต พร้อมจะผอม เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะ!
มาถึงตรงนี้ มูล่ามั่นใจเลยว่าเพื่อน ๆ ต้องมีไฟในการหันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการออกกำลังกายกันมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะแต่ละวิธีที่มูล่าคัดสรรมานั้นสามารถทำได้จริง แถมไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมล่ะ ดังนั้นหากเพื่อน ๆ เห็นวิธีการออกกำลังที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมหยิบเทคนิคเหล่านี้ไปลองใช้จริงด้วยนะ รับรองเลยว่าเมื่อเพื่อน ๆ ได้กลับมาออกกำลังอีกครั้ง เพื่อน ๆ จะรู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างที่ไม่เป็นมาก่อนเลย ดีต่อใจ แถมยังดีต่อร่างกายอีกด้วย
บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning