การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by 33dc3a9f-3429-40f0-8fc8-d04ea7cad623 Mula-X

ได้เงินมาเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ มาจากสาเหตุอะไรกันแน่?

แม้สภาพสังคมยุคปัจจุบันจะส่งผลให้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ มีปัจจัยมากมายที่ต้องผันมาเป็นค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะทั้งค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่พัก ค่าเดินทาง หรือแม้แต่ค่าอาหาร ซึ่งส่งผลให้รายได้ของเรานั้นยากที่จะเพียงพอต่อรายจ่ายในแต่ละเดือน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางสำหรับคนหาเช้ากินค่ำในการเก็บหอมรอมริบเงินที่มีอยู่เพื่อสร้างตัวในอนาคต เพราะที่จริงการได้เงินมาเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอนั้น อาจจะเป็นปัญหามาจาก “นิสัย” การใช้เงินของเรา มากกว่าจะมาจากปริมาณของรายได้ก็เป็นได้ ซึ่งหากกำจัดพฤติกรรมเหล่านี้ได้หมดจดแล้วล่ะก็ รับรองว่าได้เห็นเงินถุงเงินถังอย่างแน่นอน

 

ฉะนั้นแล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้เรามาหาสาเหตุที่แท้จริงของการได้เงินเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอกันดีกว่า!

 

สาเหตุที่ 1: ติดหรู อยู่สบาย

หนึ่งในสาเหตุหลักของการใช้เงินมากเกินความจำเป็นของใครหลายๆ คนคือการ “ติดหรู” ซึ่งคำว่าติดหรูในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่การชอบใช้ของแบรนด์เนม หรือการใช้จ่ายอย่างมือเติบที่คอยแต่จะซื้อ “ของมันต้องมี” เท่านั้น แต่การติดหรูที่ว่านี้ยังหมายถึงการเสียค่าใช้จ่ายกับหลายๆ อย่างที่แพงเกินจำเป็น เช่น การเช่าหอพักขนาดที่ใหญ่เกินไปทั้งๆ ที่เราอยู่ห้องที่เล็กกว่านี้ได้ ซึ่งทำให้ราคาค่าเช่าแพงขึ้น การนั่งรถแท็กซี่จนเคยชิน ทั้งๆ ที่นั่งพี่วิน หรือห้อยรถเมล์แล้วถูกกว่า หรือแม้แต่การกินอาหารตามห้าง และซื้อชานมไข่มุกร้านแพงๆ บ่อยเกินจำเป็น

 

สิ่งที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นนี้ ไม่ใช่ว่าจะเป็นข้อต้องห้ามเลยนะ แต่ประเด็นสำคัญก็คือ เราต้องไม่ซื้อมันบ่อยจนเกินไปต่างหาก เพราะท้ายที่สุดคนที่เดือดร้อนจากการอยู่สบายของเราก็คือตัวเราเอง

 

สาเหตุที่ 2: ไม่ยอมแบ่งเงินออมไว้ก่อนใช้

การเก็บเงินก่อนจะมีโอกาสใช้ถือเป็นวิธีการเริ่มต้นอันสุดแสนจะเรียบง่ายของคนอยากมีเงินก้อน ที่สำคัญก็คือ ใครๆ ก็ทำได้ ซึ่งนี่ถือเป็นการบังคับตัวเองตั้งแต่ต้น ไม่ให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้ แต่ทว่าพวกเราหลายๆ คนต่างมองข้ามเรื่องนี้ไป และมักจะรอให้ถึงสิ้นเดือนทุกครั้งก่อนจะคิดถึงการเก็บเงิน และกว่าจะถึงตอนนั้น เราก็ใช้เงินเหล่านี้ไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราใช้เงินมากเกินตัว และยากที่จะมีเงินถุงเงินถัง

 

ฉะนั้นต้องจำไว้เลยนะ ว่าถ้าอยากมีเงินเก็บ “ต้องเก็บก่อนใช้” โดยวิธีการง่ายๆ ของการเก็บเงินแบบนี้ก็คือ เมื่อเงินเดือนของเราออกมาแล้ว ให้ทำการแบ่ง 5 - 10% ของเงินเดือนเพื่อเป็นเงินออมทันที เอาไปซ่อนไว้ให้มิดชิดล่ะ ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด!

 

สาเหตุที่ 3: ชอบก่อหนี้ มีอะไรก็รูด มีอะไรก็กู้

“หนี้” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตกที่มักจะมาพร้อมกับการใช้เงินเกินตัวเสมอ เนื่องจากในยุคนี้ การสมัครบัตรเครดิต หรือแม้แต่การขอสินเชื่อนั้นง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก นั่นจึงทำให้ใครหลายๆ คน มีพฤติกรรมการใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น และอาจส่งผลเสียต่อสถานะทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย เพราะเราอาจจะหลงลืมไปว่าเงินที่ได้มาจากการหยิบยืมเหล่านี้เป็นเงินของตัวเราในอนาคตที่ท้ายที่สุดเราก็ต้องใช้คืน

 

สาเหตุที่ 4: มีรายได้ทางเดียว

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าสภาพสังคมยุคปัจจุบันนั้นส่งผลอย่างมากต่อค่าใช้จ่าย ฉะนั้นแล้วการมีงานเพียงงานเดียวอาจจะไม่พออีกต่อไป และนั่นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราชักหน้าไม่ถึงหลังในทุกๆ เดือนนั่นเอง

 

แต่ก็ใช่ว่าเพื่อนๆ จะต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเพื่อนๆ อาจจะลองหาอาชีพเสริมที่สามารถสร้างรายได้ให้เราในเวลาว่าง หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ หรือแม้แต่การรับวิ่งรับส่งสินค้าผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรีต่างๆ ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยแหละ เพราะการมีงานที่มากขึ้นเท่ากับรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเงินในกระเป๋าของเรานั่นเอง

 

เป็นยังไงกันบ้าง หลังจากได้รู้สาเหตุเหล่านี้ก็คงจะพอเห็นภาพปัญหาที่เพื่อนๆ คาอกคาใจกันมานานแล้วใช่ไหมล่ะ ซึ่งบอกได้เลยว่าการแก้ไขปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้นั้น ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด อยู่ที่ว่าเพื่อนๆ พร้อมที่จะเริ่มต้นหรือไม่ และมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้แค่ไหน ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มได้ทันทีเลยนะ เราขอเป็นกำลังใจให้คนสู้ชีวิตทุกๆ คน!

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

 

 

รับมูลาคอยน์เลย

  • แชร์