การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by 33dc3a9f-3429-40f0-8fc8-d04ea7cad623 Mula-X

คนมีคู่... บริหารเงินอย่างไรให้ไปรอด

ก่อนที่หลาย ๆ คนจะเริ่มใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน บางครั้งแค่คำว่ารักอย่างเดียวยังไม่พอ เพราะยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องที่หลายต่อหลายคู่อาจจะมองข้าม นั่นก็คือ “เรื่องเงิน” นั่นเอง ซึ่งลำพังการบริหารเงินของตัวเราเองคนเดียวก็ว่ายากแล้ว แต่บอกได้เลยว่าการบริหารเงินของคนมีแฟนเนี่ย ซับซ้อนเสียยิ่งกว่า เพราะถ้าพลาดไปนิดเดียวล่ะก็... อาจนำมาซึ่งการเลิกรากันเลยก็เป็นได้

 

มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงเริ่มมีคำถามในใจว่า “แล้วการจัดการเงินกับแฟนต้องทำอย่างไรบ้าง” วันนี้ทาง Mula-X มีคำตอบมาให้คุณแล้ว!

 

เปิดเผยสถานะทางการเงินกันอย่างชัดเจน

เมื่อเราเลือกใครสักคนมาเป็นแฟน หรือคู่ชีวิตแล้ว สิ่งที่ต้องห้ามมีเลยก็คือ “ความลับ” ต่อกัน ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่เรื่องการเงินในกระเป๋าของเราก็ตาม ตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะมีรายได้หลายทาง แต่ก็เสียดายที่จะต้องแบ่งเงินส่วนนั้นให้แฟน เพราะฉะนั้นก็เลยแอบปิดไม่ให้คนที่เรารักรู้ ซึ่งบอกได้เลยว่าผิดมหันต์ เพราะคนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน ยังไงเขาก็ต้องรู้เรื่องของเราดีกว่าคนอื่น ๆ บอกได้เลยครับเก็บซ่อนไว้ได้ไม่นานหรอก และพอจับได้ขึ้นมาที เป็นเรื่องใหญ่แน่นอน

 

ดังนั้นสิ่งที่คู่รักทุกคนควรทำก็คือเปิดใจพูดคุยสภาพการเงินของคนทั้งคู่อย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็น รายได้, หนี้ และ ลักษณะการใช้จ่ายโดยประจำของเรา เป็นต้น เพื่อเราทั้งคู่จะได้ประเมิณสถานการณ์ตรงตามความเป็นจริง และส่งผลให้การบริหารเงินมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

คุยภาระค่าใช้จ่ายกันให้เคลียร์

การไม่ตกลงกันให้เข้าใจกันดีทั้งสองฝ่ายนั้นถือประเด็นหลักที่นำมาซึ่งปัญหาทางการเงินกับชีวิตคู่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราก็มักจะเจอกับคนที่ยึดอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียวแบบเสร็จสรรพ หรือบางคนก็เป็นประเภทคิดเองเออเอง ตัดสินใจโดยไม่ถามคนที่เรารัก แรก ๆ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก ก็คนมันรักกันนี่หน่า ยอมได้ก็ยอมไป แต่ทว่าพอนานวันเข้า ไอ้เจ้าเรื่องเงินที่คุยกันไม่เคลียร์จะกลายเป็นเนื้อร้ายที่ลุกลาม และกัดกินความสัมพันธ์ของคู่รักจนหมดสิ้น ฉะนั้นแล้วหากไม่อยากทะเลาะกับแฟนในภายหลัง ก่อนที่เราจะไปมองการใช้ชีวิตในระยะยาวกับใครสักคน เราหันมาเคลียร์เรื่องการเงินให้ชัดเจนกันตั้งแต่ต้นกันดีกว่า โดยแบ่งภาระหน้าที่ในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามที่พึงพอใจ และสอดคล้องกับรายได้และภาระอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ที่สำคัญก็คือต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า นั่นเป็นความสบายใจของทั้งคู่ และทำได้จริงในระยะยาว ซึ่งต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ได้บอกได้ ไม่ได้บอกไม่ได้ และที่สำคัญห้ามตกลงปากเปล่าเด็ดขาด! ต้องมีลายลักษณ์อักษรไว้กันลืมเสมอ

 

ปรับเปลี่ยนการใช้จ่าย

เมื่อเราเลือกที่จะใช้ชีวิตกับใครสักคนแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับก็คือ ชีวิตนั้นจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนตอนอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน ซึ่งการเปลี่ยนไปในที่นี้ก็จะกระทบมาถึงการใช้จ่ายของเราด้วยเช่นกัน เมื่อเราเป็นโสดอยู่ตัวคนเดียว เราจะใช้เงินเท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่า แต่พอมีอีกหนึ่งชีวิตมาเคียงคู่ การใช้เงินตามใจตัวเองนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ เพราะอาจจะเป็นการเอาเปรียบคนที่เรารักก็เป็นได้ ฉะนั้นอะไรที่เรามองว่าลดได้ ละได้ ก็ควรทำตั้งแต่ตอนนี้เลย!

 

แผนการเป็นเรื่องสำคัญ

การมีแผนการที่ชัดเจนนั้นถือเป็นสัญญาณที่ดีทางการเงิน เพราะจะทำให้เราสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย หรือการตกงาน ไปได้อย่างไม่เจ็บตัวมากนั้น ฉะนั้นนอกจากจะตกลงกันให้ชัดเจนเรื่องภาระค่าใช้จ่ายแล้ว การเตรียมการแผนระยะสั้นในกรณีฉุกเฉิน และแผนระยะยาวสำหรับอนาคต ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน รักกันก็ต้องโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง ถูกไหมล่ะ?

 

อย่าใส่กองกลางจนหมด ต้องมีงบส่วนตัวกันบ้าง

สิ่งที่หลายต่อหลายคู่มักทำผิดพลาดในการบริหารเงินร่วมกันก็คือการใส่เงินทั้งหมดที่เราได้ไว้ใน “กองกลาง” สำหรับใช้จ่ายของทั้งคู่ เพราะนั่นแปลว่าคุณเองแทบจะไม่มีโอกาสใช้เงินที่อุตส่าห์หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองกับของใช้ หรือของชอบส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกคนต่างก็มีของที่อยากได้กันทั้งนั้น ซึ่งในบางครั้งคู่ของเราอาจจะมองสิ่งนี้ไม่จำเป็นก็เป็นได้ เช่น สาว ๆ หลาย ๆ คนก็อยากได้เสื้อผ้าใหม่ในทุก ๆ เดือน แต่ดันใช้กระเป๋าร่วมกับคุณสามี ทีนี้แหละเรื่องใหญ่เลย เพราะสามีก็จะคิดว่าเดือนที่แล้วก็เพิ่งซื้อไปเอง? ฉะนั้นอย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าเราแต่ละคนต่างต้องมีเงินส่วนตัวเพื่อไปจับจ่ายใช้สอยอย่างอิสระแบบที่ไม่มีใครมาห้าม ซึ่งวิธีนี้บอกได้เลยว่านอกจากจะดีกับการบริหารการเงินแล้ว ยังดีกับการใช้ชีวิตู่อย่างมีความสุขอีกด้วย

 

ระวัง “หนี้” ให้ดี เพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร!

ข้อนี้ต้องจำเอาไว้ให้ดี เพราะบางครั้งการตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน และใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่าความรักของเราทั้งคู่จะไปตลอดรอดฝั่งเสียหน่อย ฉะนั้นแล้วหากคุณทั้งคู่ไปก่อภาระหนี้ร่วมกัน อาจเป็นปัญหาวุ่นวายเมื่อคุณเลิกกันไปได้ ดังนั้น เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม พยายามแยกหนี้สินออกจากกัน และกัน เช่น การกู้เรียนต่อ, การกู้ซื้อรถ, การกู้ซื้อบ้าน, หนี้บัตรเครดิต เป็นต้น

 

เป็นยังไงกันบ้าง? เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นได้ว่าการบริหารเงินของคนมีแฟนเนี่ย แม้จะฟังดูเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความสามารถของคนสองคนอย่างแน่นอน และประเด็นสำคัญที่ห้ามลืมเลยก็คือการเปิดใจเข้าหากันแบบตรง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้การเงินไม่มีปัญหา แถมความรักก็ยังไม่สะดุดอีกด้วย

 

 

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

 

 

รับมูลาคอยน์เลย

  • แชร์