30
August6 เทคนิคการเรียนภาษาให้ได้ผลชัวร์
เนื่องด้วยโลกในยุคปัจจุบันของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อนอย่างมาก ไม่ว่าจะด้านการใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่การทำงานเลี้ยงชีพ ทุกอย่างรอบตัวของเราล้วนกลายเป็น “การแข่งขัน” กันทั้งสิ้น หากเราไม่รู้จักพัฒนาให้ “ตามทันโลก” แล้วล่ะก็... เราอาจจะเอาตัวรอดยากในโลกแห่งการแข่งขันนี้ หากพูดถึงในด้านของความต้องการในตลาดแรงงานในยุคนี้ เหล่าผู้ประกอบการ หรือเจ้าของบริษัททั้งหลายก็มักจะมองหาผู้สมัครงานที่ “มากความสามารถ ซึ่งหนึ่งในทักษะที่เจ้านายในอนาคตของเรา ๆ คอยเพ่งเล็ง และเฟ้นหากันอยู่เสมอนั่นก็คือความสามารถทาง “การใช้ภาษา” นั่นเอง
มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนก็คงมีคำถามในใจแล้วล่ะสิ “ว่าคนหาเช้ากินค่ำอย่างเรา ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนรู้ภาษาใหม่อีกล่ะ?” “แค่ทำงานวัน ๆ หนึ่งก็หมดเวลาไปทั้งวันแล้ว” แถมเรื่องภาษานั้นก็ยากใช่เล่นอีกใช่ไหมล่ะ? “คิดแล้วก็ปวดหัวไปหมด” การเรียนภาษานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันยากเกินความสามารถของเรา ๆ นอกจากนี้เราทั้งหลายก็อยู่ในยุค 5G กันแล้วนะ! ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาอื่นๆ ในยุคนี้ก็มีหนทางเปิดกว้างมากมายหลายอย่างเลยแหละ ซึ่งบอกได้เลยว่าทำให้การเรียรรู้เรื่องภาษานั้น “ง่าย”กว่าสมัยก่อนเป็นไหน ๆ เลย วันนี้มูล่าจะมาพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศของเพื่อน ๆ นั้นได้ผลจริง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
เทคนิคที่ 1 : อย่ากลัว “ความผิดพลาด”
สาเหตุที่มูล่าหยิบยกเรื่องเกี่ยวกับ “ความกลัว” มาไว้เป็นข้อแรกเลย นั่นก็เพราะนี่ถือเป็น “อุปสรรค” ชิ้นใหญ่ ที่มักจะขัดขวางทุกคนจาก “ความสำเร็จ” อยู่เสมอยังไงล่ะ! โดยการมีความกลัวที่มากเกินไปนั้นก็จะทำให้เรา “ไม่กล้า” ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งยัง “ไม่มั่นใจ” ในสิ่งที่เรารู้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่คนที่อยากเรียนรู้ภาษาไม่ควรมีเลยแหละ เพราะแท้ที่จริงแล้วการเรียนภาษานั้นก็คือ “การลองผิด และลองถูก” ยังไงล่ะ!
ถ้าจะให้มูล่าสรุปแบบรวบรัด หนทางที่จะช่วยให้เรานั้นเก่ง และสามารถใช้งานภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของเราได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นก็คือการมี “ความกล้า” ที่จะพูด แม้จะรู้ว่ามันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบนั่นเอง เพราะถ้าเรามัวแต่มา “กลัวผิด กลัวพลาด” อยู่แล้วล่ะก็... หนทางของความสำเร็จก็อาจจะไม่มีวันมาถึงเราเลยก็เป็นได้ ดังนั้นถึงเวลาแล้วแหละ ที่เพื่อน ๆ จะต้อง “ทลาย” กำแพงแห่งความกลัวให้ออกไปให้หมด และพร้อมที่จะฝึกฝนไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรก็ตาม!
เทคนิคที่ 2 : หา “คน” คุยด้วย
อีกหนึ่งอุปสรรคที่ทำให้คนส่วนมากเรียนภาษาแล้วไปไม่รอดนั่นก็คือ “ความเบื่อ” นั่นเอง ก็อย่างว่านะ จะให้เอาแต่อ่านหนังสืออยู่คนเดียว มันจะไปเข้าหัวได้อย่างไรล่ะถูกไหม? ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาข้อนี้นั้นไม่ยากเลย เพียงแค่เรารู้จักที่จะหา “เพื่อน” หรือคนตัวเป็น ๆ มาฝึกภาษาไปพร้อม ๆ กับเรายังไงล่ะ! ซึ่งมูล่ารับรองได้เลยว่าการมีเพื่อนคุยด้วยก็จะทำให้ความเบื่อเหล่านี้นั้นหายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ความสำคัญของการมีเพื่อนเรียนไปด้วยกัน นอกจากจะเป็นตัวช่วยให้การแก้เบื่อแล้ว ยังทำให้เรานั้นมี “ไฟ” ในการเรียนมากขึ้นอีกด้วยนะ เพราะการมีคู่หูก็จะเหมือนมีผู้ช่วยที่เราทั้งสองต่างจะคอยกระตุ้นกันไปกันมา แถมยังช่วยกันแชร์ความรู้ ฝึกซ้อม และทบทวนไปด้วยกันอีก ความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลยแหละ
เทคนิคที่ 3 : หัด “พูดหน้ากระจก”
การคุยกับตัวเองนั้นถือเป็นอีกหนึ่ง “ทางลัด” ที่จะช่วยให้เราชำนาญการใช้ภาษาได้ไวขึ้นอย่างทันตาเห็นเลยแหละ เพราะถึงแม้เราจะอ่านออกเขียนได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะ “พูดได้” เสียหน่อย ดังนั้นสิ่งที่คนหัดเรียนภาษาต่างประเทศอย่างเรา ๆ ควรทำก็คือการหาเวลาว่าง ๆ วันละเล็กละน้อย ลองพูดกับตัวเองหน้ากระจกดู แรก ๆ อาจจะ เขิน ๆ หน่อย แต่มูล่าบอกเลยว่าทำไปบ่อย ๆ เดี๋ยวเราจะชินกับมันเอง
ทั้งนี้ หากเราเป็นคนที่มีพื้นฐานของความไม่มั่นใจด้วยแล้วล่ะก็... การพูดกับตัวเองนั้นถือเป็นการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์เอามาก ๆ เลยแหละ เพราะเราสามารถ “พูดอะไรก็ได้ พูดอย่างไรก็ได้” ไม่ต้องมาห่วงว่าคนอื่นจะมองอย่างไรยังไงล่ะ! เพื่อน ๆ ก็ยังสามารถอัดคลิปตัวเองเก็บไว้ดูทีหลังได้อีกด้วยนะ เราจะได้เห็นว่ามีอะไรที่เราทำดีแล้ว และยังมีอะไรที่เราต้องแก้ไขอยู่นั่นเอง
นอกจากนี้ การฝึกพูดคนเดียวอย่างสม่ำเสมอยังช่วยทำให้เราเกิดความคุ้นชินกับการออกเสียง ซึ่งจะเพิ่มให้เรามีความมั่นใจเวลาต้องใช้งานภาษาเหล่านี้ในชีวิตจริงได้อีกด้วย เรียกได้ว่ารอวันที่จะเฉิดฉายได้เลย
เทคนิคที่ 4 : ลองหัด “ดูคลิปวิดีโอ” เป็นภาษาอื่น ๆ บ้าง
ในยุค 5G แบบนี้ มูล่ามั่นใจเลยว่าเพื่อน ๆ ทุก ๆ คนนั้นจะต้องเล่นโซเชียลมีเดียกันเป็นประจำอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะทั้งเฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก อินสตาแกรม หรือแม้แต่ยูทูป รับรองได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักกันอย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าโซเชียลมีเดียที่ว่านี้ นอกจากจะเป็นช่องทางในการให้ความบันเทิงที่ดีแล้ว เรายังสามารถ “เรียนรู้” สิ่งต่าง ๆ จากสื่อมากมายหลายชนิดที่ถูกอัปโหลดไว้บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วยนะ
ดังนั้นหากครั้งหน้าเพื่อน ๆ ได้ใช้เวลาเล่นช่องทางเหล่านี้แล้วล่ะก็... จากที่ปกติเรามักจะนั่งดูคลิปวิดีโอทั้งหลายเป็นภาษาไทย เราก็ลองหันมาเปลี่ยนไปดูคลิปฯ ของฝรั่งดูบ้าง เพื่อฝึกให้หูของเรานั้นคุ้นชินกับการออกเสียงของเจ้าของภาษา ซึ่งมูล่าขอบอกเลยว่า การเรียนรู้แบบนี้นั้นดีมาก ๆ เพราะเราจะได้รับทั้งความบันเทิง ไปพร้อม ๆ กับทักษะทางภาษาอีกด้วย เผลอ ๆ ความรู้ที่ได้จะเข้าหัวไวกว่าการนั่งท่องตำราเสียอีกนะจะบอกให้!
เทคนิคที่ 5 : “ตำรา” ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ถึงแม้หลายต่อหลายคนอาจจะมองว่าตำรา นั้นเป็นเรื่องที่สุดแสนจะน่าเบื่อ แต่มูล่าขอบอกเลยว่าถ้าเราอยากจะ “เก่ง” ขึ้นอีกขั้น การอ่านหนังสือ และเรียนรู้จากตัวอักษรก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย โดย การอ่านหนังสือนั้นจะช่วยให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ที่บางทีไม่ได้นิยมใช้กัน ซึ่งนั่นจะทำให้ระดับการใช้งานภาษาของเราพัฒนาขึ้น รู้ลึกในภาษานั้นมากขึ้น
นอกจากนี้การอ่านหนังสือบ่อย ๆ ยังจะช่วยเราได้เรียนรู้ทั้งไวยากรณ์ และการเรียงประโยค ได้ง่ายขึ้นอีกด้วยนะ ซึ่งเรื่องเหล่านี้อาจจะไม่สำคัญสำหรับการใช้ภาษาแบบทั่ว ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่หากมองไปถึงการสมัครงานแล้วล่ะก็... เราควรได้สอบวัดระดับความรู้ทางภาษา ซึ่งความรู้อย่างถูกหลักไวยากรณ์นั้นก็สำคัญไม่น้อย
เทคนิคที่ 6 : หัด “ถาม” เมื่อสงสัย
ยิ่งถามเยอะยิ่งทำให้เราเก่งเร็ว! เพราะเรื่องภาษาเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ดังนั้นมือใหม่อย่างเรา ๆ จึงมักจะมี “คำถาม” หรือข้อข้องใจอยู่เสมอแหละ หากแต่ถ้าเรามัวทำตัวมึน และไม่กล้าเอ่ยปากถาม เราก็อาจจะไม่มีวันเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้เลยก็ว่าได้ ซึ่งการถามนั้น “ง่าย” กว่าการเสียเวลาไปค้นคว้าหาคำตอบด้วยตัวเองเป็นไหน ๆ เลย บางทีถ้าถามถูกคน เราอาจจะได้เคล็ดลับอื่น ๆ เพิ่มเติมมาเป็นของแถมอีกด้วยนะ รับรองไม่เสียแรงเปล่า!
มาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนคงเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่าการเรียนภาษาต่างชาติด้วยตนเองนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลย ก่อนจะจากกันมูล่าขอกระซิบอีกนิดว่า เทคนิคต่าง ๆ ที่มูล่านำเสนอไปในบทความนี้นั้นไม่ได้ใช้ได้ผลกับแค่ภาษาอังกฤษแต่เพียงอย่างเดียวนะ เพราะมันสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุก ๆ ภาษาที่เพื่อน ๆ สนใจจะเรียนเลยแหละ รับรองว่าใช้เวลาทำตามเทคนิคเหล่านี้ไม่นานเดี๋ยวเพื่อน ๆ ก็พูดได้คล่องปรื๋อเลยขอบอก
ทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning