5
Augustรวมวิธีแก้หนี้แบบ 2 หิมะ
ภาระหนี้ไม่ว่าจะก้อนเล็กหรือใหญ่ ต่างก็เป็นภาระ ความรับผิดชอบให้แก่ผู้ถือทั้งนั้น แต่ถ้าใครก็ตามมีหนี้มากกว่าหนึ่งก้อนแล้วไม่รู้จะจัดการอย่างไรให้เหมาะสมล่ะก็ วันนี้มูลาแนะนำวิธีการจัดการหนี้ โดยใช้จินตนาการว่าก้อนหนี้เปรียบเสมือนหิมะ เรามีหน้าที่ในการจัดการหิมะเหล่านั้นให้หมดไปมาฝาก ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
1.วิธีการแบบลูกบอลหิมะ (Snowball Method)
ข้อนี้เพื่อน ๆ ลองจินตนาการว่า เรายืนอยู่บนยอดเขาที่มีก้อนหิมะหลายขนาดไล่เรียงกันไป
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด วิธีการแบบลูกบอลหิมะนั้นคือ การที่เราไล่เรียงจัดการหนี้ก้อนต่าง ๆ ตั้งแต่ก้อนเล็กสุด ไปก้อนที่ใหญ่ที่สุด วิธีการนี้ทำให้เราสามารถเห็นขนาดของหนี้แต่ละก้อนได้ชัดเจนขึ้น ต้องจ่ายหนี้ก้อนเล็กให้หมดให้เร็วที่สุด เพื่อทำให้เรามีกำลังใจในการจ่ายหนี้ก่อนอื่น ๆ ระหว่างที่เราจ่ายหนี้ก้อนเล็กให้หมด ก้อนอื่น ๆ ก็ให้เราชำระแบบขั้นต่ำเอาไว้ ไม่ใช่ให้ปล่อยค้างชำระ เมื่อสามารถชำระหนี้ก้อนแรกได้แล้ว ก็ให้ขยับไปจ่ายหนี้ก้อนที่ใหญ่ขึ้นตามลำดับ จนครบทุกก้อนหนี้
อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา วิธีการแบบลูกบอลหิมะเหมาะสมสำหรับคนที่มีหนี้หลายก้อน แต่ผ่อนจ่ายอย่างไรก็ไม่หมดเสียทีจนหมดกำลังใจ และนอกจากนี้ บรรดาก้อนหนี้ควรมีอัตราดอกเบี้ยไม่แตกต่างกันมาก เพราะหากมัวแต่ชำระก้อนหนี้เล็ก ๆ จนหลงลืมก้อนหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงแล้วละก็ ก้อนหนี้เหล่านี้ก็จะกลายเป็นภาระก้อนโตอยู่ดี
เมื่อตัดสินใจจัดการหนี้ในรูปแบบลูกบอลหิมะนี้แล้ว เพื่อน ๆ ควรจดรายละเอียดหนี้ในแต่ละก้อนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ยอดเงินและอัตราดอกเบี้ยอย่างไร และระหว่างที่ทยอยชำระหนี้ อย่าลืมจดบันทึกและตรวจดูความเคลื่อนไหวเอาไว้ด้วยนะ
2.วิธีการแบบหิมะถล่ม (Debt Avalanche Method)
ข้อนี้ก็เช่นกัน ให้เราจินตนาการว่าเราอยู่ด้านล่างภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ หากว่าเราไม่จัดการหิมะก้อนใหญ่ ๆ ที่หนักหนาสาหัสก่อน เราก็จะได้รับบาดเจ็บได้มากกว่า
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วิธีการจัดการหนี้แบบหิมะถล่มคือ การที่เราเลือกชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน หนี้ก้อนอื่น ๆ เพื่อเป็นการประหยัดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว ระหว่างที่พยายามชำระหนี้ก้อนที่มีดอกเบี้ยสูงสุด ก็ชำระหนี้ก้อนอื่นด้วยจำนวนที่ต้องชำระขั้นต่ำ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยหนี้ก้อนอื่น ๆ นะ
ข้อดีของการชำระหนี้แบบหิมะถล่มนี้คือ การร่นระยะเวลาในการชำระหนี้ และลดดอกเบี้ยที่เราจำเป็นต้องชำระในระยะยาว เป็นการประหยัดทั้งดอกเบี้ยและเวลาในการชำระ จึงเหมาะสมสำหรับคนที่มีเงินจำนวนหนึ่งเพื่อการชำระอยู่บ้าง เพียงพอต่อยอดชำระ และต้องการชำระหนี้อย่างเร่งรัดนั่นเอง
ข้อเสียสำหรับการชำระหนี้แบบหิมะถล่มนี้ คือ ในระยะแรกเราจะไม่ได้เห็นว่าหนี้ก้อนใดก้อนหนึ่งถูกกำจัดให้หมดไปเหมือนวิธีการลูกบอลหิมะที่เราจัดการหนี้ก้อนเล็ก ๆ ให้หมดไปก่อน เพราะฉะนั้นวิธีการหิมะถล่มอาจทำให้ใครหลายคนหมดกำลังใจในการชำระหนี้อย่างต่อเนื่องได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการชำระหนี้แบบลูกบอลหิมะหรือหิมะถล่ม เราก็ไม่ควรเพิ่มภาระด้วยการสร้างหนี้เพิ่มเติม หรือหยุดชำระหนี้ระหว่างทาง เพราะวิธีการที่ว่าจะใช้ไม่ได้ผลอย่างเต็มที่ และนอกจากนี้ยังมีวิธีการอื่น ๆ ที่สามารถจัดการหนี้ที่มีหลายแหล่งที่มาได้ เช่น การรวมหนี้ เป็นต้น เพื่อน ๆ ควรเลือกรูปแบบการชำระหนี้หลายก้อนที่เหมาะสมกับตัวเอง และภาระหน้าที่ของเพื่อน ๆ ในตอนนี้และอนาคตด้วย มูลาเชื่อว่าไม่ว่าก้อนหนี้จะใหญ่หรือเยอะมากแค่ไหน ถ้าเรามีวินัย มีแผนในการชำระและชำระอย่างต่อเนื่อง เราก็สามารถหมดหนี้ได้ในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.ncb.co.th/ncb-infographic/credit-bureau-no-clear-debt-4/
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-945829#google_vignette
https://www.krungsricard.com/th/article/snowball-method
https://www.blockdit.com/posts/630c9e38c6098715689facb9
บทความ: MULA Learning