เพื่อน ๆ หลายคนคงได้ยินกระแสการใช้จ่ายแบบ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนทำงาน หรือคนหาเช้ากินค่ำอย่างเรา ฟังชื่อแล้วก็ดูน่าสนใจทีเดียว แต่เรา ๆ รู้จักกระแสเหล่านี้มากน้อยขนาดไหน รู้หรือไม่ว่าควรต้องระวังอย่างไร วันนี้มูลาขอพาเพื่อน ๆ มารู้จักคำนี้ให้ถ่องแท้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่เราจะได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ว่าแล้วก็ลุยกันเลย

“ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” คืออะไร

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เป็นคำแปลตรงตัวจาก “Buy Now Pay Later” (BNPL) ซึ่งเป็นรูปแบบการซื้อสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะลูกค้าสามารถได้รับสินค้าและบริการก่อนที่จะชำระเงิน จึงเป็นประโยชน์มากกับลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้สินค้า หรือผู้ที่ยังมีเงินไม่เพียงพอต่อการซื้อสินค้าในขณะนั้น

ทำไม “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” จึงเป็นที่นิยม

สาเหตุอย่างแรก ก็คือตอบโจทย์ผู้มีกำลังซื้อน้อย หรือมีความจำเป็นต้องใช้สินค้าในขณะนั้น แน่ ๆ อีกอย่าง เดี๋ยวนี้คนเราติดกับความสุขเร่งด่วน (instant gratification) ซึ่งเราไม่สามารถรอเวลาเก็บเงินได้ แต่เราต้องการใช้สินค้าหรือบริการเหล่านั้นทันที เพื่อความสุข ณ ตอนนั้นเลย ความโดดเด่นของการ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ที่แตกต่างจากกู้ยืมเงินทั่ว ๆ ไปคือ เมื่อครบกำหนดเวลา ลูกค้าสามารถจ่ายเงินได้โดยไม่มีดอกเบี้ย หรือมีอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ๆ แบบนี้ยิ่งล่อตาล่อใจนักช้อปเข้าไปใหญ่เลย

              “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ในประเทศไทยไปถึงไหนแล้ว  

              ตอนนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ในบ้านเราเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” เหมือนในต่างประเทศเลยล่ะ แพลตฟอร์มหลัก ๆ ที่มีบริการเหล่านี้เช่น

              1) แพลตฟอร์มซื้อของออนไลน์

              2) แพลตฟอร์มขนส่ง/เดลิเวอรี่

              3) แพลตฟอร์มกระเป๋าสตางค์ออนไลน์

              4) แพลตฟอร์มท่องเที่ยว จองที่พัก

              ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อของ ใช้บริการต่าง ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ติดการใช้งานแพลตฟอร์มนั้น ๆ มากขึ้น รวมทั้งมีโอกาสได้ดอกเบี้ยหากลูกค้าจ่ายเงินล่าช้าจากกำหนดเวลาอีกด้วย

ข้อดีของการ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง”

ในมุมมองผู้บริโภคอย่างเรา ลองมาดูกันว่าการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง มีข้อดีหรือประโยชน์กับเราอย่างไร

1. ได้สินค้าหรือบริการนั้นทันที ไม่ต้องรอเก็บเงิน

2. ตอบโจทย์คนที่กู้ยืมเงินได้ยาก เช่น คนที่ทำงานอิสระ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา เพื่อสามารถได้บริการและสินค้านั้นทันที ถ้าขืนต้องสมัครเงินกู้ ต้องมีเอกสารในการสมัครยุ่งยาก และมีโอกาสไม่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารอีกด้วย

3. สามารถจัดการเงินได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยข้อดีของการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ที่ส่วนมากไม่มีดอกเบี้ยรบกวนใจ ถ้าเราสามารถจ่ายเงินตามกำหนดชำระเสียอย่าง เราก็สามารถได้รับประโยชน์จากบริการนี้ได้แน่นอน เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเต็มในเดือนนี้ แต่สามารถหมุนเงิน จัดการเงินเพื่อเอาไปใช้ส่วนอื่น ก่อนมาชำระได้นั่นเอง แต่ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า นี่จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่สามารถชำระเงินตรงเวลาเท่านั้นนะ

4. ไม่มีดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำมาก ๆ

นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง สำหรับกรณีจ่ายเงินเป็นงวด ๆ นั้นอาจจะมีเสียดอกเบี้ยให้กับผู้ให้บริการอีกด้วย แต่ก็ถือว่าน้อย ถ้าเทียบกับดอกเบี้ยเงินกู้อื่น ๆ

ข้อเสียของการ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง”

แน่นอน ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง มีข้อเสียหลัก ๆ อย่างเดียวก็คือ ทำให้เราเป็นหนี้ได้ง่ายมากขึ้น ง่ายเหลือเกิน บางครั้งอาจปลูกฝังนิสัยไม่ให้เราวางแผนทางการเงิน ว่าต้องเก็บเงินก่อนซื้อของหรือใช้บริการ ความสะดวกรวดเร็วที่ว่ากระตุ้นให้เราใช้จ่ายอย่างไม่ต้องคิดอะไรและสุดท้าย หากเราจัดการเงินไม่ได้ เราก็เสียประโยชน์จากกระแส “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” อยู่ดี

เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าเพื่อน ๆ มีความจำเป็นในการซื้อของหรือใช้สินค้าใด ๆ และหากยังมีเงินไม่เพียงพอ สามารถลองใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังเหล่านี้ดูได้ แต่ก็ขอให้คิดถึงข้อดีข้อเสีย และความสามรถในการจ่ายเงินคืนของเราอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เราจมในกับดักหนี้ที่เราสร้างเองโดยไม่รู้ตัวล่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.krungsri.com/th/wealth/krungsri-prime/privileges/articles/buy-now-pay-later

https://techsauce.co/saucy-thoughts/how-buy-now-pay-later-disrupts-credit-card-issuers

https://brandinside.asia/why-buy-now-pay-later-matter-for-thai-bank/

https://futuretrend.co/buy-now-pay-later/