เชื่อได้เลยว่าคนเราแทบทุกคนนั้นต่างฝันที่อยากจะมี “บ้าน” สักหนึ่งหลังที่เป็นของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะนอกจากบ้านจะเป็นสถานที่ที่ให้เราได้ผ่อนคลายจากวันอันเหนื่อยล้าอย่างดีเยี่ยมแล้ว การมีบ้านที่เป็นของเราจริง ๆ ยังช่วยให้ชีวิตเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นอีกด้วย จากที่จะต้องเดินทางไกลไปทำงาน ใช้เวลาบนท้องถนนแสนจะน๊าน นาน ก็ได้มีที่อยู่ที่ใกล้บริษัทของเรา ซึ่งทำให้เราทั้งหลายได้มีเวลาส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสุขให้กับทุกแง่มุมในชีวิต

แต่ทว่า... การมีความฝันอย่างเดียวนั้นไม่พอสำหรับการมีบ้าน เพราะการจะได้บ้านสักหลังมาครอบครองนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กเลยทีเดียว และนั่นก็นำมาซึ่งหนึ่งในคำถามยอดฮิตของเหล่าคนอยากมีที่อยู่อาศัยใหม่แต่กำลังทรัพย์ไม่มากนัก นั่นก็คือ ระหว่างการ “เช่าบ้าน” หรือ “ซื้อบ้าน” วิธีการไหนถึงจะคุ้มค่า คุ้มราคาที่ต้องจ่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันมากกว่ากัน ซึ่งวันนี้ Mula-X มีคำตอบมาให้คุณแล้ว

ไม่มีหนทางที่ดีที่สุด มีแต่หนทางที่ “เหมาะสม” ที่สุด

แท้ที่จริงแล้วคำตอบของคำถามที่ว่า “เช่าบ้าน” หรือ “ซื้อบ้าน” อะไรจะดีว่ากันนั้น ไม่มีคำตอบแบบตายตัวว่าแบบไหนถึงจะดีที่สุด เพราะทั้งความเป็นอยู่ อาชีพ ความฝัน และสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคลมันแตกต่างกันอย่างมาก จึงทำให้คำตอบที่ตรงโจทย์ที่สุดของคำถามนี้ก็คือการค้นหาวิธีที่ "เหมาะสม" กับชีวิตของเพื่อน ๆ เองเสียมากกว่า ดังนั้นขอบอกเลยว่า การที่ใครก็ตามพูดถึงการซื้อบ้านว่าดีกว่าการเช่าเสมอนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด!

การซื้อบ้านเป็นภาระมากกว่าที่คิด

คนส่วนใหญ่ต่างคิดว่าการซื้อบ้านนี่แหละคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดสินทรัพย์ทั้งหมดก็ตกเป็นของเรา และอยู่กับเราไปชั่วชีวิต แต่แท้ที่จริงแล้วความคิดข้างต้นนั้นเป็นความจริงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะสิ่งที่เราต่างลืมนึกถึงก็คือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่จากการซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็น “ค่าตกแต่ง” “ค่าซ่อมบำรุง” “ค่าดูแลรักษา” หรือแม้แต่ “ภาระผ่อนชำระบวกดอกเบี้ย” ที่อาจจะกินเวลากว่า 20-30 ปีเลยก็ว่า ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเวลาที่เราซื้อบ้าน น้อยคนนักที่จะไม่ใช้บริการสินเชื่อธนาคาร นั่นทำให้เมื่อนำภาระซ่อนเร้นเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับค่าเช่าแล้ว มีโอกาสสูงมากที่ค่าเช่าในแต่ละเดือนจะถูกกว่าดอกเบี้ยที่เราจ่ายในแต่ละงวด

การเช่าบ้านนั้นคุ้มค่าใช่เล่น

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า “การเช่าบ้าน” ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครเขาร่ำลือ แถมยังเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยสำหรับคนหาเช้ากินค่ำอย่างเรา ๆ ด้วย เพราะเพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องไปหากู้เงินมาจากที่ไหนเพื่อให้สามารถเช่าบ้านได้ เพียงแค่เก็บเล็กผสมน้อยจนมีเงินพอสำหรับค่าเช่าล่วงหน้า 1-2 เดือน หรือเงินประกันทรัพย์สินเท่านั้นก็สามารถเช่าบ้านได้แล้ว

การซื้อบ้านเหมาะกับคนที่มีการงานที่มั่นคง

สิ่งที่ต้องถามตัวเองเสมอก่อนซื้อบ้านก็คือ “เราจะลงหลักปักฐานแถวนี้เลยหรือไม่?” “จะใช้ชีวิตแถวนี้ไปยาว ๆ เลยใช่ไหม?” เพราะว่าบ้านนั้นเมื่อซื้อแล้วจะเป็นภาระผูกพันกับตัวเราไปอีกเป็นระยะเวลาหลายสิบปี นั่นจึงทำให้การซื้อบ้านเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับคนที่มีอาชีพการทำงานที่มั่นคง ไม่ต้องย้ายที่ทำงานบ่อย ๆ มีเงินเดือนที่แน่นอน และมีโอกาสตกงานน้อย อย่างเช่น ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น เพราะหากเพื่อน ๆ ไม่ใช่อาชีพเหล่านี้ แล้ววันใดวันหนึ่งต้องย้ายที่ทำงานกระทันหัน นอกจากจะยังต้องผ่อนชำระบ้านหลังเดิมแล้ว ยังต้องเสียเงินให้กับบ้านที่ไปเช่าใหม่อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเจอสองเด้งเลยแหละ

การเช่าบ้านทำให้ชีวิตยืดหยุ่นได้มากขึ้น

ส่วนใหญ่การเช่าบ้านจะมาพร้อมความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะเราสามารถเลือกทำเลได้ดั่งใจเพื่อให้สะดวกต่อการคมนาคม และใกล้ที่ทำงานมากที่สุด ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางอีกด้วย ที่สำคัญก็คือการเช่าบ้านไม่เป็นภาระผูกพันแต่อย่างใด หากเราอยากย้ายก็แค่ยกเลิกสัญญา และหาที่ใหม่แทน ง่าย ๆ แค่นี้เอง ไม่ต้องมานั่งวิตกในเรื่องการจัดการขายทรัพย์สินเหมือนการซื้อบ้าน

การซื้อบ้านคือการลงทุน

ท้ายที่สุดนี้ แม้บ้านนั้นจะเป็นภาระอันหนักอึ้งก็จริง แต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าบ้านนั้นเป็นสินทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ขาดของผู้ซื้อ แถมมูลค่าของสินทรัพย์เหล่านี้ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามระยะเวลาอีกด้วย ซึ่งหากเพื่อน ๆ มีกำลังทรัพย์มากพอ และมองว่าสามารถรับภาระเหล่านี้ได้ การลงทุนกับบ้านก็เป็นเรื่องที่ดีมิใช่น้อย ทั้งยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้แก่ลูกหลานได้อีกด้วยนะ ที่สำคัญสิ่งที่ห้ามลืมก็คืออสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำมาก กว่าจะหาคนซื้อต่อเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน

เมื่อมาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนคงมีคำตอบในใจของตัวเองว่าระหว่างการ “ซื้อ” หรือ “เช่า” แบบไหนนั้นเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเราเองมากกว่าแล้วใช่ไหมล่ะ? Mula-X ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ สามารถทำตามฝัน และได้มีบ้านอันแสนอบอุ่นของตัวเองในที่สุด!

บทความ : MULA Learning 

รูปประกอบ : MULA Learning