การค้นหาแบบครอบคลุมทั้งหมดยังไม่ได้เปิดใช้งาน
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Blog entry by Anuntapong Chuen-im

ก่อนจะทำประกันชีวิต ต้องรู้เรื่องเหล่านี้!

ก่อนจะทำประกันชีวิต ต้องรู้เรื่องเหล่านี้!

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำประกันชีวิตนั้นถือเป็นหนึ่งในการวางรากฐาน และสร้างหลักประกันให้ชีวิตอย่างดี เนื่องจากสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากเรื่องไม่คาดฝันลงได้ นอกจากนี้เมื่อเพื่อน ๆ ได้ทำประกันแล้ว ไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้นที่ได้ผลประโยชน์ เพราะครอบครัว หรือคนที่รออยู่ข้างหลังก็จะมีส่วนแบ่งในผลดีนี้ด้วยเช่นกัน

และสำหรับคนที่สนใจการทำประกันชีวิต ทั้งกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นั้น วันนี้เราจะมาขอแนะนำให้รู้จักกับเรื่องควรรู้เรื่องแรกๆ ของการตัดสินใจทำประกันอย่าง “ประกันชีวิต มีกี่แบบ” เพื่อให้เลือกสรรผลประโยชน์ได้อย่างตรงใจ และตรงจุด ไม่จ่ายเงินแบบสูญเปล่าอย่างแน่นอน

หากพร้อมแล้วล่ะก็ เราไปดูกันเลย!

 

แบบที่ 1 : ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance)

เป็นการทำประกันชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับเวลาเราทำประกันภัยรถยนต์ นั่นก็คือเป็นเบี้ยแบบจ่ายทิ้ง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเราจะไม่ได้เงินคืน (เว้นแต่กรณีเสียชีวิต) แต่ได้รับความคุ้มครองตามข้อตกลง โดยมีกรอบการคุ้มครองภายในระยะเวลาที่กำหนดอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 5 ปี หรือแม้แต่ 10 ปี

 

ซึ่งประกันในลักษณะนี้มีข้อดีก็คือ ค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างต่ำ และคงที่ แถมกำหนดระยะเวลาการชำระเบี้ยได้ จึงเหมาะสำหรับบุคคลที่เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว หรือกำลังหวังจะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง

 

แบบที่ 2 : ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

เป็นประกันชีวิตที่สามารถคุ้มครองเพื่อนๆ ไปได้ตลอดชีวิต โดยจะมีการทำข้อตกลงว่าจะจ่ายเงินทุนประกันคืนจำนวนเท่าใด ในช่วงเวลาไหน (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกตีไว้ที่อายุประมาณ 90 ปี) ที่สำคัญก็คือเพื่อน ๆ ยังเลือกได้ด้วยว่าจะให้บริษัทประกันนั้นจ่ายเงินก้อนนี้ให้ใคร นี่จึงถือเป็นประกันชั้นดีสำหรับคนที่มีบุคคลที่ต้องดูแล และหวังว่าหากเสียเราไปจะให้เขามีเงินสักก้อนเพื่อเป็นต้นทุนชีวิต แต่แม้ประกันนี้จะมีเบี้ยที่ราคาไม่แพง การต้องชำระเบี้ยประกันอย่างยาวนานก็อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนเหนื่อยเอาได้เหมือนกัน

 

แบบที่ 3 : ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)

เป็นประกันชีวิตที่เกิดจากแนวคิดการผสมผสานระหว่างการออม และการคุ้มครอง โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินคืน พร้อมปันผล ให้แก่ผู้ที่ทำประกันเมื่ออยู่ครบอายุสัญญา ซึ่งประกันในลักษณะนี้จะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการฝากเงินตามธนาคารทั่วไป นั่นจึงทำให้เป็นที่นิยมของเหล่านักลุงทุน แต่ก็มาพร้อมกับอัตราเบี้ยที่สูงไม่ใช่น้อย

 

แบบที่ 4 : ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ (Annuity Insurance)

ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ประกันชีวิตแบบบำนาญ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้เรามีเงินใช้ยามเกษียณ โดยประกันรูปแบบนี้เรามักจะต้องหยุดจ่ายเบี้ยที่ช่วงอายุ 55 ปี หรือ 60 ปี แล้วหลังจากนั้นก็จะได้เงินมาใช้ไปเรื่อยๆ เป็นรายเดือน จนถึงขอบเขตอายุที่ระบุไว้ในแบบประกัน เรียกได้ว่ายิ่งอยู่นานยิ่งคุ้มค่า

 

ซึ่งประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่วางแผนการเงินในระยะยาว และคาดว่าจะมีอายุที่ค่อนข้างยืน เพราะกว่าจะได้รับผลประโยชน์จนถึงจุดที่คุ้มค่านั้นก็ใช้ระยะเวลามิใช่น้อย บางคนรอไม่ไหวยกเลิกสัญญาไปก่อนก็มี

 

แล้วประกันชีวิตแบบไหนล่ะ? ที่เหมาะสมกับเพื่อนๆ มากที่สุด

หากให้ตอบคำถามข้อนี้นั้น เราขอแนะนำว่า การเริ่มต้นทำประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance) ถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะจะไม่กระทบรายจ่ายมากจนเกินไป แต่ยังได้รับการคุ้มครองแบบเต็มที่ มีปัญหาอะไรไม่ต้องกังวล ได้รับการดูแล และรักษาอย่างดีแน่นอน

 

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning

 

  • แชร์