ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจในช่วงหยุดหลังจากที่ไม่ได้ออกเที่ยวมานาน ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวภูเขา หรือล่องทะเล นั้นเป็นความฝันของแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ แต่พอหันมาดูงบประมาณที่เหลืออยู่ในกระเป๋าแล้ว หลาย ๆ คนต่างก็พับฝันนี้เก็บกลับเข้าตู้ไปโดยปริยาย

แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าให้เงินที่มีกลายมาเป็นอุปสรรคต่อการท่องผจญภัยไปในโลกกว้างโดยเด็ดขาด เพราะยังมีเทคนิคมากมายที่สามารถช่วยเหลือ “คนงบน้อย” อย่างเรา ๆ ให้สามารถทำตามหัวใจของเราได้ ถ้าอยากไปซะอย่าง บอกได้เลยว่าห้ามยอมแพ้ ซึ่งเทคนิคที่จะทำให้คนที่มีงบพอประมาณนั้นสามารถไปเที่ยวได้ดั่งใจนึก นั่นก็คือการวางแผนนั่นเอง มูลารับรองเลยว่าถ้าทุก ๆ ครั้งก่อนจัดทริปเรานั้นมีการวางแผนล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการวางเส้นทาง วางวัน และเวลาที่เหมาะสม และที่สำคัญที่สุดก็คือการวางแผนงบประมาณเพื่อคุมค่าใช้จ่ายนั่นเอง วันนี้เราไปดูกันดีกว่าว่า การจะมีทริปสุดเฟี้ยว แบบไม่เสียวไปทั้งเดือนเนี่ย ต้องทำอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนที่ 1: ชี้ให้ชัดว่าจะไปเที่ยวที่ไหน

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวนั่นก็คือเป้าหมายที่เราจะไปนั่นเอง เมื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการไปนั้นมีความแน่ชัดแล้ว การวางแผนขั้นต่อ ๆ ไป และการเตรียมหาข้อมูลที่กิน เที่ยว ช้อปในราคาสุดประหยัดก็จะตามมาได้อย่างไม่ยาก

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งงบประมาณในการเที่ยว ไม่งั้นเดี๋ยวจะปวดหัว

บอกได้เลยว่าแม้เรา ๆ จะเป็นคนงบน้อย แต่นั่นไม่ได้แปลว่าไม่มีเงินนี่หน่า เพราะฉะนั้นก่อนจะไปเที่ยวเราก็ควรตั้งงบประมาณที่มองดูแล้วไม่กระทบกับสถานะทางการเงินของเรามากเกินไป ทั้งนี้ ยิ่งเราวางแผนไว้ล่วงหน้ามากเท่าไหร่ เราเองก็จะมีเวลาหยอดกระปุกเพิ่มเท่านั้นด้วย บางทีถ้าเพื่อน ๆ ตั้งใจเก็บเงินอย่างต่อเนื่อง อาจจะสามารถใช้จ่ายเกินงบบ้างก็ได้นะขอบอก

ขั้นตอนที่ 3: เลือกวันเที่ยวให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

แม้คนส่วนใหญ่จะเลือกไปเที่ยวในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวติดกันหลายวัน แต่ทว่าช่วงฮอตฮิตติดชาร์จแบบนั้นทางโรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งก็มักจะถือโอกาสอัพราคาขึ้นจากวันปกติหลายเท่าตัว ดังนั้นเพื่อเป็นการเซฟเงินในกระเป๋า เรามาลองหาโอกาสเที่ยวในวันธรรมดากันดีกว่า นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังไม่ต้องไปเสี่ยงเจอรถติด หรือแม้แต่ต้องมาต่อคิวรอกินข้าวอีกด้วย

ขั้นตอนที่ 4: จองล่วงหน้า จองผ่านแอป ช่วยได้มาก

การจองล่วงหน้าไม่ว่าจะทั้งเครื่องบิน รถไฟ หรือแม้แต่โรงแรมนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทุ่นราคาค่าใช้จ่ายไปได้เกือบเท่าตัว ทั้งนี้หากเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันที่มีทั้งส่วนลด แถมยังได้อาหารเช้าของโรงแรมอีกด้วย นี่ถือว่า Win-Win ที่สุด

ขั้นตอนที่ 5: พกของกินไปเองบ้าง ไม่ต้องกินอาหารภัตรคารทุกมื้อ

รู้หรือไม่ว่าการหอบอาหารไปเที่ยวนั้นสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะอาหาร เครื่องดื่ม และขนมกรุบกรอบในสถานที่ท่องเที่ยวย่อมมีราคาแพงกว่าท้องตลาดทั่วไป ฉะนั้นแล้วการพกไปเองนี่แหละคือสิ่งที่คนงบน้อยอย่างเรา ๆ ควรทำมากที่สุด!

แต่แหม ไปถึงที่แล้วใช่ว่าจะต้องกินอาหารที่เตรียมไปทุกมื้อนะ เราสามารถให้รางวัลตัวเองได้ด้วยการกินอาหารภัตตาคารดี ๆ สักมื้อสองมื้อ หรือแม้แต่ลองกินอาหารจากร้านเจ้าเด็ดประจำถิ่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เจ้าเด็ดบางเจ้าก็ราคาถูกเวอร์เลยขอบอก ที่สำคัญก็คือใช่เงินให้อยู่ในงบก็พอ

ขั้นตอนที่ 6: ไปเป็นแก๊งค์ รับรองถูก!

การไปเที่ยวด้วยกันหลาย ๆ คน นอกจากจะสร้างบรรยากาศที่คึกครื้นกับทริปของเราแล้ว ขอดีที่ได้เพิ่มเติมคือจะมีคนช่วยหารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าเดินทาง ด้วยยังไงล่ะ! โดยเฉพาะเวลาเหมารถนะ ไปเยอะแล้วคุ้มมาก หรือนอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องค่าอาหาร ที่พอเวลาไปหลายคน เงินกองกลางก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้เราสามารถเลือกสรรเมนูได้เยอะกว่าเดิม กินด้วยกันก็ยิ่งถูก แถมได้กินหลากหลายอีกตะหาก

เป็นยังไงกันบ้าง มาถึงตรงนี้คนงบน้อยทั้งหลายคงมีหวังที่จะได้ไปเที่ยวกันแล้วใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นถ้ากายพร้อม ใจพร้อม เราก็อย่าลืมว่าแผนเราต้องพร้อมด้วย รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้มีทริปที่สนุกสุดเหวี่ยงโดยไม่กระทบเงินในกระเป๋าอย่างแน่นอน!

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning