มูลากลับมาอีกครั้งกับบทความสำหรับการพัฒนาตนเอง เพราะว่าการทำให้ตัวเราเก่งขึ้น มีความสามารถมากขึ้น เป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถพรากไปจากเราได้ ความรู้หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราอยากจะมี หรืออยากจะเก่งขึ้นนั้น อยู่ดี ๆ เราคงไม่สามารถหามาได้ง่าย ๆ หากแต่ว่าเราต้องใช้ทักษะบางอย่างเป็นเครื่องมือในการหาความรู้หรือประสบการณ์นั้น ๆ นั่นเอง บทความจากมูลาในวันนี้จึงว่าด้วยทักษะที่จำเป็นที่ทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเองให้ถึงขีดสุดให้ได้

มูลาขอแบ่งประเภทหลัก ๆ คือ Hard skills หมายถึงทักษะความรู้ที่จับต้องได้ อาจเกี่ยวข้องกับการทำงาน การเรียน และ Soft skills หมายถึงทักษะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสังคม การแก้ไขเฉพาะหน้า การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นทักษะที่ดูเป็นนามธรรมมากกว่า Hard skills

             3 อันดับ Hard skills ที่จำเป็น

1. ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy)

สำหรับเพื่อน ๆ หาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน ในแต่ละเดือน เงินถือได้ว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราต้องออกมาทำงาน เพราะมีภาระหน้าที่ต่าง ๆ หลังจากที่ได้เงินมาแล้ว หากเราไม่มีความรู้ทางด้านการเงินก็ยากที่จะทำให้เราใช้ประโยชน์จากเงินได้คุ้มค่า คุ้มราคาค่าเหนื่อยของเรา ในปี 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกสำรวจความรู้และทักษะทางการเงินของคนไทย พบว่า แม้ว่าจะมีพัฒนาการเรื่องความรู้ทางการเงินจากปีก่อน ๆ หน้า ยังมีหลายเรื่องการเงินที่เรา ๆ ยังไม่เข้าใจกันดี 3 อันดับแรกได้แก่ การคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทบต้น การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และมูลค่าเงินตามเวลา ฉะนั้นแล้ว เพื่อน ๆ ลองถามตัวเองดูนะ ว่าเรามีความรู้ทางการเงิน โดยเฉพาะ 3 หัวข้อที่กล่าวมา มากน้อยขนาดไหน

1. ความรู้เรื่องดิจิตอล (Digital Literacy)

เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็มีโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไว้เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ทั้งนั้น แต่มีใครแน่ใจไหมนะว่าเราเข้าใจโลกดิจิตอลและเครื่องมือต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ความรู้เรื่องดิจิตอลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นทักษะความรู้ในการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกเหนือไปจากความเพลิดเพลิน เรายังสามารถหาความรู้ หาประสบการณ์หรือสร้างอาชีพให้กับตัวเองได้ด้วยนะ เพราะฉะนั้นแล้ว หากเราว่าง ๆ จากการเล่นสื่อโซเชียล ลองหาวิธีใช้ประโยชน์จากโลกอินเตอร์เน็ตดูนะ เผื่อปิ๊งไอเดีย ได้โอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาตัวเองอย่างไรล่ะ

1. ทักษะทางภาษา (Language Proficiency)

การที่เราเข้าใจภาษามากกว่าหนึ่งภาษา ทำให้เราเห็นโลกและเข้าใจคนได้มากขึ้น แต่บางคนก็อาจจะคิดว่า เราไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอื่น ๆ หรือไหน ๆ เราก็มีเครื่องมือแปลภาษาเช่น Google Translate หรือแอปพลิเคชันแปลภาษาต่าง ๆ การเรียนภาษาอื่น ๆ จะสำคัญอย่างไรกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก World Economic Forum การรู้มากกว่า 1 ภาษาเป็นประโยชน์กับเราแน่นอน การเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ เปรียบเสมือนการออกกำลังกายสมอง มีงานวิจัยระบุว่า คนที่สามารถพูด 2 ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วจะมีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ช้ากว่าคนที่พูดได้ภาษาเดียวถึง 5 ปี นอกจากนี้การใช้ภาษามากกว่า 1 ภาษาอย่างคล่องแคล่วยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองในที่ทำงานอีกด้วย

ว่าแล้ว เพื่อน ๆ ลองเลือกภาษาที่อยากเรียนเพิ่มเติม แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใช้ทุกวัน อย่างน้อยก็ได้ความสนุกและออกกำลังกายสมองแน่ ๆ

3 อันดับ Soft skills ที่จำเป็น

1. ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

จะฉลาดเรื่องใด อย่างไรก็ได้ แต่เราต้องฉลาดในการเข้าใจตนเองและผู้อื่น นี่คือคำนิยามง่าย ๆ ของทักษะความฉลาดทางอารมณ์ กล่าวคือ เข้าใจว่าผู้อื่นมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คนอื่นมีความต้องการและแรงจูงใจอะไร ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกนึกคิดอย่างไร และต้องการอะไร เป็นทักษะที่จำเป็นในการเข้าสังคมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ อ้างอิงข้อมูลจากมหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ความฉลาดทางอารมณ์นอกจากจะส่งผลดีต่อการพัฒนาตัวเองแล้ว ยังเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการในที่ทำงาน เพราะผู้นำก็จะเข้าใจลูกน้องและสามารถสร้างแรงจูงใจในการทำงาน ทำให้ทุกคนในที่ทำงานเข้าใจความต้องการที่แตกต่างของแต่ละคน รวมทั้งให้แต่ละคนยินดีช่วยเหลือ และทำงานเป็นทีมได้มากยิ่งขึ้น

1. ทักษะการสื่อสาร (Communication)

เราคงเคยได้ยินว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว หากจะอยู่กับคนอื่นได้ เราต้องสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้เป็นอย่างดี การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ในเรื่องชีวิตส่วนตัว ยังมีประโยชน์ในเรื่องชีวิตการทำงานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสัมภาษณ์งาน การประชุมงาน การเสนอขายสินค้า การประสานงานกันในทีมและกับบุคคลภายนอก ต่างก็ต้องใช้ทักษะการสื่อสารกันทั้งนั้น ทักษะการสื่อสารไม่ได้หมายความแค่ว่า พูดจาไพเราะเพราะพริ้ง แต่หมายรวมถึง การตั้งใจฟังคนอื่นเพื่อให้เข้าใจความหมาย ไม่พูดแทรก เลือกใช้วิธีการสื่อสารให้เหมาะสมกับบุคคลและสถานที่ การใช้ภาษา ท่าทางและน้ำเสียงที่เหมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ เป็นต้น

1. ทักษะการปรับตัว (Adaptability)

เพราะว่าโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วเหลือเกิน จะให้เราทำอะไรเดิม ๆ ไม่หาความรู้ หรือเข้าใจโลกใหม่ ๆ เราคงจะตามโลกไม่ทันและซักวันหนึ่ง เราอาจจะทำงานหรือสร้างมูลค่าให้ตัวเองได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น การปรับตัวนอกจากจะทำให้เราอยู่รอดในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังทำให้เราสามารถเรียนรู้จากคนใหม่ ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ คล้ายน้ำไม่เต็มแก้ว ที่จะทำให้เรามีมุมมองที่หลากหลาย แถมเรายังไม่ปิดกั้นและดูถูกความรู้ใหม่จากคนอื่น

ว่าแล้ว เพื่อน ๆ ลองประเมินตัวเองดูว่า ทักษะในข้อไหนที่เรามีแล้ว ข้อไหนที่เราควรพัฒนาเพิ่มเติม มูลาเชื่อว่า เราทุกคนสามารถเก่งขึ้นได้ เป็นตัวเองในฉบับที่ดีขึ้นได้ เพราะการที่เรารักตัวเอง พยายามพัฒนาตัวเอง ผลลัพธ์ที่ดีก็ย่อมเกิดขึ้นกับตัวเราเองแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.bot.or.th/content/dam/bot/image/research-and-publications/2563ThaiFLsurvey.pdf

https://www.ocsc.go.th/DLProject/mean-dlp

https://www.weforum.org/agenda/2017/04/the-benefits-of-speaking-more-than-one-language/

https://appliedpsychologydegree.usc.edu/blog/emotional-intelligence-in-the-workplace/

https://www.verywellmind.com/components-of-emotional-intelligence-2795438#:~:text=Emotional%20intelligence%20skills%20are%20abilities,greater%20overall%20success%20in%20life.

บทความ: MULA Learning
รูปประกอบ: MULA Learning